Last updated: 20 เม.ย 2568 | 2277 จำนวนผู้เข้าชม |
การตัดพังผืดใต้หลุมสิว (subcision) สามารถช่วยให้หลุมสิวดีขึ้นได้ทันทีบางส่วน เนื่องจากการตัดพังผืดจะทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังมีการฟื้นฟูและสร้างคอลลาเจนใหม่เพื่อเติมเต็มหลุมสิว
การตัดพังผืดใต้หลุมสิว (subcision) สามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือหลากหลายแบบ รวมถึงอุปกรณ์เข็มชนิต่างๆ ทั้งกลุ่มเข็มปลายทู่ (blunt cannula) หรือเข็มคม (sharp needle) ทั้งสองวิธีมีข้อดีและข้อเสียของตนเอง การเลือกใช้เข็มชนิดใดขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ผิวหนังและสภาพผิวของผู้ป่วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมก่อนการรักษา
ทั้งสองวิธีมีความแตกต่างกันดังนี้:
1. เข็มปลายทู่ (Blunt Cannula):
- ข้อดี: เข็มทู่มีโอกาสน้อยที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเลือดออกใต้ผิวหนัง เนื่องจากปลายเข็มไม่แหลมคม ทำให้สามารถตัดพังผืดได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบๆ มากเกินไป
- ข้อเสีย: อาจใช้เวลานานกว่า ความแม่นยำตรงจุดในการเข้าถึงบริเวณพังผืดทำได้ยากกว่า จำเป็นต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์สูงมาก และอาจจะไม่เหมาะสำหรับพังผืดที่แข็งแรงมากๆ
2. เข็มคม (Sharp Needle):
- ข้อดี: เข็มคมสามารถตัดพังผืดที่แข็งได้ง่ายและรวดเร็ว เนื่องจากปลายเข็มแหลมคมและสามารถเจาะผ่านผิวหนัง ในจุดที่เข้าถึงพังผืดได้โดยตรง
- ข้อเสีย: มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเลือดออกใต้ผิวหนังมากกว่า และอาจทำให้เกิดแผลเป็นหรือติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ถ้าไม่ทำอย่างระมัดระวังหรือทำโดยผู้ที่ไม่ชำนาญพอ
การตัดพังผืดรักษาหลุมสิว: ศาสตร์ ศิลป์ และสิ่งที่คุณควรรู้ในปัจจุบัน การตัดพังผืด (Subcision) กลายเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการรักษาหลุมสิว หลายครั้งที่เรามักเห็นการโปรโมทว่า "...ต้องมีการตัดกวาดพังผืดให้ทั่วทุกชั้น ทุกอณูรูขุมขน เพื่อขจัดพังผืดออกทั้งหมด จึงจะทำให้หลุมสิวดีขึ้นได้มากที่สุดกว่าวิธีอื่นๆ..."
แต่ในความเป็นจริงแล้ว การตัดพังผืดเป็นมากกว่าแค่การใช้เข็มกรีดผิว แต่เป็นอะไรที่ต้องการความชำนาญและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำเป็นอย่างสูง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและผลข้างเคียงน้อยที่สุด ศาสตร์และศิลป์ของการตัดพังผืดนั้นไม่ใช่เพียงแค่การใช้เครื่องมือตามตำราเท่านั้น แต่ต้องอาศัยการประเมินที่แม่นยำและความเข้าใจโครงสร้างผิวหนังในแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญที่พัฒนาได้จากประสบการณ์และฝีมือของแพทย์
และที่สำคัญ!!! การตัดพังผืดในทุกชั้นอย่างไร้ทิศทาง โดยไม่คำนึงถึงเส้นเอ็นหรือโครงสร้างผิวที่ช่วยพยุงใบหน้า อาจทำให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือแผลเป็นใหม่ที่รุนแรงกว่าตามมาได้ ดังนั้นการตัดพังผืดต้องอาศัย ศาสตร์และศิลป์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งด้านความรู้ ประสบการณ์ และการควบคุมทิศทางที่แม่นยำ
ความเสี่ยงและข้อควรระวัง
การตัดพังผืดที่ดีมีปัจจัยสำคัญดังนี้:
หลุมสิวประเภทใดบ้างที่สามารถรักษาได้ด้วยการทำ Subcision?
หมอขอท้าวความถึงประเภทของแผลเป็นจากสิวอีกครั้งก่อน ว่ามีหลายรูปแบบ ได้แก่ ice pick scars, boxcar scars, rolling scars, deep atrophic scars, hypertrophic scars, red scars, tethered scars, และ anchored scars. tethered scars, และ anchored scars เป็นแผลเป็นเนื้อยุบตัวแบบที่ถูกดึงลงด้วยพังผืด fibrotic bands ที่ยึดติดกับโครงสร้างเนื้อเยื่อชั้นลึก เช่น ชั้นเนื้อเยื่อไขมัน หรือกับพื้นผิวของกล้ามเนื้อ
หลุมสิวกลุ่มนี้สามารถตรวจได้โดยการให้ผู้ป่วยยิ้มและขยับกล้ามเนื้อแสดงสีหน้า หรือตรวจโดยการดึงผิวหนังให้ตึง(stretch test)แล้วยังคงเห็นรอยยุบตัวของหลุมสิวอยู่ หลุมสิวแบบนี้มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นด้วยการทำ Subcision ตัดพังผืดค่ะ
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า Subcision คือการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับหลุมสิวที่เป็นอยู่
การที่แพทย์สามารถระบุประเภทของหลุมสิวได้อย่างถูกต้อง และเลือกวิธีการได้อย่างเหมาะสม จะทำให้เกิดผลลัพธ์การรักษาได้ดีขึ้นมากที่สุด
การตรวจระบุประเภทหลุมสิวอย่างละเอียดถูกต้อง จำเป็นต้องตรวจร่างกายทางผิวหนังโดยตรง การตรวจส่งภาพถ่ายมาปรึกษามีข้อจำกัดหลายอย่าง สามารถประเมินอย่างคร่าวๆได้ แต่จะไม่ละเอียดชัดเจนเท่ากับการตรวจร่างกายคนไข้โดยตรงค่ะ
การจำแนกประเภทของรอยแผลเป็นจากสิวอย่างแม่นยำ ถือเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเลือกวิธีรักษาหลุมสิวของคนไข้แต่ละราย
Subcision เป็นหนึ่งในหัตถการที่หมอทำประจำค่ะ วิธีนี้เป็นหนึ่งในการรักษาหลุมสิวที่มีพังผืดยึดเกาะที่ดีที่สุด ส่วนวิธีอื่นๆเช่น เลเซอร์ microneedling หรือการลอกผิวด้วยสารเคมี จะไม่สามารถตัดพังผืดได้เลย
ในหลุมสิวแบบ tethered scars หลังจากทำหัตถการตัดพังผืดให้แยกกันได้แล้ว การฉีดสารเติมเต็มหรือสารกระตุ้นคอลลาเจน เข้าไปแทนที่เนื้อไขมันที่ยุบตัวฝ่อลง และเพื่อเป็นบัฟเฟอร์กั้นพังผืดไม่ให้ติดกันใหม่ เป็นอีกหัวใจสำคัญของการรักษาหลุมสิวระดับรุนแรงแบบนี้
วิธีการทำ Subcision เป็นอย่างไร?
เมื่อหมอระบุประเภทของหลุมสิวได้โดยละเอียดถูกต้องแล้ว จะทำการวิเคราะห์ลักษณะและร่างแผนภาพหลุมสิวขึ้นมาให้คนไข้เข้าใจได้ง่ายขึ้น จากนั้นวางแผนการรักษาร่วมกันกับคนไข้ เพื่อเลือกว่าวิธีรักษาให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่สุด แล้วจึงเริ่มรักษาหลุมสิวได้
การทำหัตถการแพทย์ Subcision นี้ หมอจะเลือกทำในหลุมสิวแบบ tethered, rolling scars, anchored scars และ bound down scars
** ในปัจจุบัน การตัดพังผืด (Subcision) กลายเป็นคำตอบยอดนิยมสำหรับการรักษาหลุมสิว หลายคนมองว่าการตัดพังผืดเพียงอย่างเดียวจะช่วยแก้ปัญหาหลุมสิวได้ทุกแบบ แต่ในความเป็นจริง นั่นเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น
การตัดพังผืด: แค่เริ่มต้น แต่ยังไม่เพียงพอ
การตัดพังผืดช่วยปลดพันธนาการของพังผืดที่ดึงรั้งผิวเอาไว้ให้หลุดออก หลุมสิวที่เคยลึกก็อาจดูตื้นขึ้นได้ในทันที แต่หากไม่มีการเสริมการฟื้นฟูโครงสร้างผิวหลังการตัดพังผืด ผลลัพธ์อาจอยู่ได้ไม่นาน เพราะพังผืดสามารถกลับมาก่อตัวกันใหม่ได้ และอาจหนาแน่นกว่าเดิม
ที่ Real clinic เราเชื่อมั่นว่าการรักษาหลุมสิวที่ได้ผลลัพธ์อย่างแท้จริงต้องครอบคลุมทั้งการตัดพังผืดเพื่อปลดล็อกการดึงรั้งของหลุมสิว และการเสริมสร้างคอลลาเจนเพื่อฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียนอย่างยั่งยืน ซึ่งสิ่งนี้คือหัวใจสำคัญของ Real Scar Synergy โปรแกรมที่เราออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาหลุมสิวอย่างครอบคลุม
อย่างไรก็ตาม การรักษาด้วยวิธีนี้อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ในบางกรณีที่ผิวเดิมของคนไข้เกิดการเสียหายไปมาก แล้วต้องการผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้มากที่สุดและมีเวลาจำกัดในการรักษา อาจจำเป็นต้องมีตัวเสริมเพิ่มเติมเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่น:
1. การใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนร่วมกับการตัดพังผืด (subcision) เป็นวิธีที่เรียกว่า **คาร์บ็อกซีเทอราพี (Carboxytherapy)** วิธีนี้มีการใช้ก๊าซ CO₂ ฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนังเพื่อกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนและปรับปรุงสภาพผิว
ประโยชน์ของการใช้ CO₂
ข้อควรรู้
1. **ผลข้างเคียง:** การใช้ CO₂ อาจมีผลข้างเคียงเช่น อาการบวม แดง หรือรู้สึกไม่สบายบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักจะหายไปในไม่กี่ชั่วโมงหรือวัน
2. **ความปลอดภัย:** ควรทำการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการใช้ CO₂ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด
3. **การตอบสนองของผิวแต่ละคนแตกต่างกัน:** ผลลัพธ์ของการใช้ CO₂ อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการตอบสนองของร่างกาย
การใช้ CO₂ ร่วมกับการตัดพังผืดสามารถเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับการรักษาหลุมสิว ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับคุณ
2. การเติมเต็มหลุมสิวด้วยสารเติมเต็ม (dermal filler ) เป็นวิธีการใช้สารเติมเต็ม เช่น ไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) ฉีดเข้าไปในบริเวณหลุมสิว เพื่อทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น เติมเต็มพื้นที่ว่างใต้ผิวหนังที่เป็นหลุมสิวทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นทันที อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของร่างกายได้อีกด้วย ส่วนกลุ่มสารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator มีคุณสมบัติหลักในการกระตุ้นคอลลาเจน และบางชนิดอาจมีคุณสมบัติแบบสารเติมเต็มที่สามารถเพิ่ม volume ของผิวที่ยุบตัวให้ฟูขึ้นทันทีหลักการทำงานของฟิลเลอร์
มีข้อดีและข้อจำกัดดังนี้
การใช้ฟิลเลอร์เหมาะสำหรับหลุมสิวแบบใด
สรุป
แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะไม่ใช่กระบวนการหลักในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่ก็สามารถมีผลกระตุ้นได้ ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ การเลือกฟิลเลอร์และการฉีดควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด
3. การใช้สารกระตุ้นคอลลาเจนอื่นๆ
กลุ่มสารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator มีคุณสมบัติหลักในการกระตุ้นคอลลาเจน และบางชนิดอาจมีคุณสมบัติแบบสารเติมเต็มที่สามารถเพิ่ม volume ของผิวที่ยุบตัวให้ฟูขึ้นทันที
ในปัจจุบันยังมีสารเติมเต็มกระตุ้นคอลลาเจนชนิดอื่นๆอีกหลายตัว(Biostimulator) ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้มากขึ้น เช่น Poly-L-Lactic acid(PLLA), Poly-D-L-Lactic (PDLLA), Calcium Hydroxylapatite(CAHA), Polynucleotide(PN, PDRN), มีผลกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ร่างกายจะตอบสนองต่อสารที่ฉีดเข้าไปโดยการสร้างคอลลาเจนใหม่ๆ รอบๆบริเวณดังกล่าว
การใช้ Real Sculpt Solution ร่วมกับการรักษาหลุมสิว เป็นสารเติมเต็มผิวหนังที่ใช้สาร Poly-L-lactic acid (PLLA) ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง การใช้ Real Sculpt Solution ร่วมกับการตัดพังผืด (subcision) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการรักษาหลุมสิว โดยเฉพาะหลุมสิวที่ลึกและยากที่จะรักษา
ประโยชน์ของการใช้ Real Sculpt Solution
ข้อควรรู้
สรุป
การตัดพังผืดใต้หลุมสิวสามารถช่วยปรับปรุงสภาพหลุมสิวได้ดีในระดับหนึ่ง แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น การเติมฟิลเลอร์หรือการรักษาเพิ่มเติมอื่นๆ ก็นับว่าจำเป็นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของแพทย์แต่ละบุคคลในการทำ
*** แม้ใช้อุปกรณ์,ตัวยา,วิธีการรักษาที่เหมือนกัน แต่อยู่ในมือแพทย์ที่ต่างกัน ผลลัพธ์และความปลอดภัย ย่อมต่างกัน
Real clinic ทางเลือกของคนที่ต้องการแก้ปัญหาหลุมสิวอย่างมั่นใจ
หากคุณกำลังมองหาวิธีรักษาหลุมสิวที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน และได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจปัญหาผิวหน้าอย่างแท้จริง Realclinic คือคำตอบของคุณ เราพร้อมช่วยคุณฟื้นฟูความมั่นใจและปรับผิวให้เรียบเนียนอีกครั้ง ด้วยเทคนิคเฉพาะ และทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ
โปรแกรมเด่นที่ Realclinic สำหรับหลุมสิว: 1. Real Scar Synergy: คือ โปรแกรมรักษาหลุมสิวที่ออกแบบขึ้นโดย Dr.Ramita ซึ่งเน้นการรักษาโดยวิธีหัตถการแพทย์เป็นหลัก (Non-Energy Based Acne Scar Revision) ด้วยเทคนิคของ Dr.Ramita ผสมผสานหลายวิธีการรักษาหลุมสิว เสริมด้วยการฉีดสารฟื้นฟู ร่วมกับฉีดก๊าซเข้าไปตัดพังผืดและไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้เกิด Skin Regeneration ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยคอลลาเจนของตัวเราเอง เพิ่มเติมด้วยสารฟื้นบำรุงช่วยปรับ
คลิก อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
2. Program Real Juvgen คือการรักษาหลุมสิวที่ คุณหมอรมิตา ได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจาก Dr. Jin Se-hun (ดร.จิน ) การรักษานี้มุ่งเน้นการกระตุ้นคอลลาเจนการ ฟื้นฟูผิวหนังด้วยตัวเอง โดยใช้การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) และกรดไฮยาลูโรนิกอนุภาคเล็ก (Hyaluronic Acid) เข้าสู่ชั้นหนังแท้บริเวณที่มีปัญหา เช่น หลุมสิว ริ้วรอยร่องลึก หรือแผลเป็นเนื้อผิวยุบตัว กระบวนการนี้จะช่วยสร้างเนื้อเยื่อผิวคอลลาเจนในปริมาณมากให้ขึ้นมามาทดแทนผิวหนังที่เคยยุบเป็นหลุม ให้สามารถฟูตัวขึ้นมา ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เนื้อเยื่อใหม่ โดยไม่ทำลายโครงสร้างผิวหนัง หลังการรักษาประมาณ 3-5 วัน จะสังเกตเห็นการยกตัวของเนื้อเยื่อคอลลาเจนใหม่ที่ขึ้นมาช่วยลดเลือนแผลเป็นหลุมสิวความไม่เรียบเนียนของผิว
คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติม
" การรักษารอยแผลเป็น'หลุมสิว' เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ทางการแพทย์ เป็นหนึ่งในการรักษาที่หมอมีความถนัดชำนาญ และชอบเป็นการส่วนตัวค่ะ เนื่องจากหมอก็เป็นคนที่มีปัญหาหลุมสิวด้วยเหมือนกัน หมอจึงศึกษาและติดตามอัพเดทการรักษาหลุมสิวมาโดยตลอด ตั้งแต่ตอนเรียนแพทย์ทั่วไป เรียนแพทย์ต่อยอดด้านผิวหนัง มาจนถึงปัจจุบัน
โดยเทคนิคเฉพาะตัวที่หมอถนัดและเชี่ยวชาญและเชื่อมั่นในผลลัพธ์ที่สุด จะเป็นกลุ่มการรักษาด้วยหัตถการเน้นมือแพทย์เป็นหลัก (Non-Energy Based Scar Revision) และใช้เลเซอร์เป็นเพียงส่วนเสริมเก็บรายละเอียดเท่านั้น
เทคนิควิธีของหมอในการรักษาแผลเป็นหลุมสิวนั้นเป็นแบบเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร อาศัยทักษะความสามารถ เทคนิคขั้นสูงในการทำหัตถการการรักษาหลุมสิว เป็นงานฝีมือแพทย์ที่ต้องใช้ความชำนาญและความละเอียดเฉพาะตัวเป็นอย่างมาก และต้องเข้าใจเรื่องหลุมสิวอย่างถ่องแท้ รู้ว่าวิธีการรักษาหลุมสิวประเภทนี้ มีวิธีใดใช้รักษาได้บ้าง และนำมาปรับใช้กับคนไข้ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดโดยเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด
4 ความเป็น RealClinic ที่ทำให้คนไข้ไว้วางใจเรา
1. ความเป็นคุณหมอรมิตา
คุณหมอรมิตาเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านการดูแลผิวพรรณ ความงาม และการรักษาปัญหาหลุมสิว คุณหมอเน้นการวิเคราะห์ปัญหาอย่างเจาะลึกและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนไข้แต่ละคน "ทุกการรักษาต้องเหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ ผลลัพธ์ที่ดีคือ ผลลัพธ์ที่มาจากการรักษาที่พอดีเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การทำมากจนเกินไป"
มุ่งเน้นที่การรักษา : คุุณหมอรมิตา ให้ความสำคัญกับการรักษาที่ตรงจุด โดยยึดหลักความซื่อสัตย์และความจริงใจต่อคนไข้ทุกคน การให้คำแนะนำของหมอรมิตามุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาตามความเหมาะสมและจำเป็นเท่านั้น ไม่มีการยัดเยียดขายคอร์สหรือบริการที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการหรือปัญหาของคนไข้จริง ๆ เพื่อให้คนไข้มั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลที่ได้ผลและคุ้มค่าที่สุด ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของหมอรมิตาในการสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในระยะยาวกับคนไข้
ความใส่ใจในรายละเอียด: หมอรมิตาให้ความสำคัญกับการดูแลคนไข้ในทุกมิติ ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่ว่าปัญหาจะเล็กน้อยเพียงใดก็ไม่เคยมองข้าม เพราะหมอเชื่อว่าทุกเรื่องที่กวนใจคนไข้มีความสำคัญ และสมควรได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด หมอรมิตารับฟังปัญหาของคนไข้ด้วยความเข้าใจและใส่ใจเสมือนเป็นปัญหาของตัวเอง พร้อมใช้ความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ เพื่อออกแบบการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
มือเบา : หมอรมิตามีความเชี่ยวชาญในการทำหัตถการด้วยความประณีตและพิถีพิถัน ใส่ใจในทุกขั้นตอนจนได้รับการยอมรับว่า “มือเบา” ซึ่งช่วยลดความเจ็บและการช้ำหลังทำหัตถการได้อย่างชัดเจน ด้วยเทคนิคที่แม่นยำและประสบการณ์ที่ยาวนาน หมอสามารถทำให้กระบวนการรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและสบายที่สุดสำหรับคนไข้ ด้วยความเชี่ยวชาญและความแม่นยำนี้ ทำให้คนไข้สามารถพักฟื้นได้น้อยกว่าเดิม ไม่ต้องกังวลเรื่องใบหน้าช้ำหรือบวมหลังการรักษา พร้อมกลับไปใช้ชีวิตประจำวันหรือออกงานได้ทันที ประสบการณ์การรักษากับหมอรมิตาจึงไม่เพียงมอบผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ แต่ยังสร้างความสบายใจและความมั่นใจให้กับคนไข้ในทุกครั้งที่เข้ามารับบริการ
อัพเดทความรู้ตลอดเวลา : การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดเพื่อการรักษาที่ดีที่สุด คุณหมอเชื่อว่าการรักษาที่มีคุณภาพเริ่มต้นจากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาตนเอง หมอจึงให้ความสำคัญกับการอัปเดตความรู้และทักษะอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคนไข้จะได้รับการรักษาด้วยเทคนิคที่ทันสมัยที่สุดและเหมาะสมกับมาตรฐานระดับสากล
ที่ Real Clinic เราไม่ได้หยุดอยู่แค่คำว่า "เชี่ยวชาญ" แต่เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าคนไข้ทุกคนจะได้รับการรักษาที่ดีที่สุดจากเรา ที่ใส่ใจในทุกขั้นตอน
2. การดูแลที่ใส่ใจและไม่เน้นการขาย "ทำไม Real Clinic ไม่มีเซลล์ ?"
นี่คือหนึ่งในจุดเด่นของ Real Clinic นั่นคือ ความจริงใจ คุณหมอรมิตาให้ความสำคัญกับการให้คำปรึกษาที่โปร่งใส คนไข้จะได้รับคำแนะนำที่เหมาะสม ไม่ถูกโน้มน้าวหรือยัดเยียดบริการที่เกินความจำเป็น การไม่มีเซลล์ขายคอร์ส หรือการยัดเยียดบริการในคลินิก เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความซื่อสัตย์และความใส่ใจในตัวคนไข้มากกว่าผลกำไรในระยะสั้น หลายครั้งที่การ "ขายเพิ่ม" หรือ "ทำเกินความจำเป็น" ไม่เพียงแต่จะทำให้คนไข้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดผลข้างเคียง หรือผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ปัญหาผิวล้น ดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือในกรณีที่ร้ายแรงอาจสร้างความเสียหายต่อสุขภาพและความมั่นใจในระยะยาว
การรักษาทุกครั้ง เราให้คำปรึกษาที่ตรงไปตรงมาและออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล ไม่มีการแนะนำที่เกินความจำเป็น "เพราะเราเห็นคุณค่าใน ความเชื่อมั่นที่คนไข้มีให้กับเรา มากกว่าการเพิ่มยอดขายเพียงครั้งเดียว"
เราตระหนักว่า หากการรักษาไม่ตอบโจทย์หรือทำเกินไปจนเกิดผลเสีย จะไม่เพียงแต่ทำให้คนไข้หมดความมั่นใจในบริการของเรา แต่ยังอาจนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิมในระยะยาว เช่น ความผิดปกติของผิวที่แก้ยาก หรือความรู้สึกผิดหวังในตัวเอง
เราจึงมุ่งเน้น "การรักษาที่มุ่งผลลัพธ์ และทำให้คนไข้รู้สึกมั่นใจในทุกครั้งที่ก้าวออกจากคลินิกของเรา เพราะเราเชื่อว่า "การแก้ปัญหาอย่างตรงจุดและเหมาะสมที่สุด" คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้ทุกคน
3. ประสบการณ์ระหว่างการรักษาเป็นสิ่งสำคัญ หมอจึงเน้นการลดความไม่สบายตัวของคนไข้ให้มากที่สุด เพื่อให้ทุกครั้งที่เข้ารับการรักษา คนไข้ไม่เพียงได้รับผลลัพธ์ที่ดี แต่ยังประทับใจในกระบวนการรักษาที่อ่อนโยน เจ็บน้อย และสร้างความรู้สึกปลอดภัยและไว้วางใจในการดูแล
ทุกขั้นตอนของการรักษาเต็มไปด้วยความเอาใจใส่และความประณีต เพราะความพึงพอใจและความสุขของคนไข้คือสิ่งที่หมอมุ่งหวัง ไม่ใช่เพียงผลลัพธ์ทางกายภาพ แต่รวมถึงความมั่นใจในตัวเองและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งหมอรมิตาเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้คือหัวใจสำคัญของการดูแลที่แท้จริง
Real Clinic ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของคนไข้ในทุกขั้นตอนของการรักษา เพื่อให้ทุกคนรู้สึกมั่นใจ สบายใจ และได้รับการดูแลที่ดีที่สุด
4. เทคโนโลยีและวิธีการรักษาที่ล้ำสมัย
Real Clinic ให้ความสำคัญกับการใช้เทคนิคและเครื่องมือที่ทันสมัย โดยคุณหมอรมิตาเข้าร่วมการประชุมและเวิร์กช็อปทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะที่เกาหลี ซึ่งเป็นผู้นำด้านความงามระดับโลก เพื่อเรียนรู้เทคนิคและวิธีการใหม่ๆ เลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล และผ่าน อย.ไทย เท่านั้น
สรุป: Real Clinic โดยคุณหมอรมิตา ดีอย่างไร?
Real Clinic ไม่ใช่แค่คลินิกความงาม แต่เป็นสถานที่ที่คุณจะได้รับการดูแลอย่างจริงใจและใส่ใจในทุกรายละเอียด ด้วยการนำเสนอวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ไม่ขายเกินความจำเป็น และมุ่งเน้นให้คนไข้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Realclinic ทางเลือกของคนที่ต้องการแก้ปัญหาหลุมสิวอย่างมั่นใจ
หากคุณกำลังมองหาวิธีรักษาหลุมสิวที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน และได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจปัญหาผิวหน้าอย่างแท้จริง ไม่ยัดเยียดขาย แต่ใส่ใจทุกขั้นตอนและมุ่งเน้นผลลัพธ์ระยะยาว Realclinic คือคำตอบของคุณ เราพร้อมช่วยคุณฟื้นฟูความมั่นใจและปรับผิวให้เรียบเนียนอีกครั้ง ด้วยเทคนิคเฉพาะ และทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ
17 ก.พ. 2568