ฟิลเลอร์หลุมสิวคืออะไร ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวดีไหม รักษาหลุมสิว ด้วยฟิลเลอร์หลุมสิว !?

Last updated: 3 ส.ค. 2567  |  3996 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รักษาหลุมสิว ฟิลเลอร์หลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว เติมเต็มหลุมสิว ผ่าตัดหลุมสิว real acne scar synergy ฟื้นฟูหลุมสิว หลุมสิวเกาหลี


การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นอีกวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศ เพราะ ในปัจจุบันยังไม่มีการรักษาหลุมสิววิธีอื่นใดที่ได้ผลเร็วเท่ากับการฉีดฟิลเลอร์  ซึ่งโดยปกติฟิลเลอร์จะถูกใช้ในการเติมร่องลึกให้ตื้นขึ้นได้ทันทีอยู่แล้ว ดังนั้นในหลุมสิวที่มีการยุบตัวลงไปของชั้นผิว จึงสามารถแก้ไขด้วยฟิลเลอร์ให้หลุมสิวนั้นตื้นขึ้นได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการใช้ฟิลเลอร์ฉีดแก้ไขแผลเป็นชนิดยุบตัว (Atrophic Scar) แบบอื่นๆ ทั้งที่หน้าและลำตัวได้ด้วย เช่น แผลเป็นอีสุกอีใส แผลเป็นจากอุบัติเหตุ แผลเป็นหลังการผ่าตัดศัลยกรรม

ถ้าแผลเป็นมีพังผืดถูกยึดตัวไว้กับโครงสร้างผิวข้างใต้ การแก้ไขจำเป็นต้องตัดพังผืดนี้ออกก่อนแล้วจึงฉีดฟิลเลอร์ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี และเป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยากมากนัก แต่ต้องอาศัยทักษะฝีมือความชำนาญของแพทย์ผู้ทำหัตถการเป็นอย่างมาก

ฟิลเลอร์หลุมสิวจะให้ผลลัพธ์ที่ดีในทันที และอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า คอลลาเจนที่ผิวเราเองจะถูกกระตุ้นจากกลไกการยืดตัวของไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast Stretching)ด้วยตัวฟิลเลอร์นี้เอง ซึ่งเป็นอีกคุณประโยชน์ของฟิลเลอร์ ที่ช่วยให้ผิวแผลเป็นที่บางลงถูกทำให้หนาขึ้นจากคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเอง

เห็นมีแต่การใช้ฟิลเลอร์เติมริ้วรอยร่องลึก สามารถเอามาใช้เติมหลุมสิวได้ด้วยจริงหรอ?
ฟิลเลอร์ถูกนำมาใช้เพื่อเติมเต็มร่องลึก รอยแผลเป็นในผู้ป่วยได้ทุกวัย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่มีแผลเป็นยุบหรือหลุมสิวเมื่อเวลาผ่านไป คือ เนื่องจากการสูญเสียปริมาตรตามปกติที่เกี่ยวข้องกับอายุที่มากขึ้น ชั้นกระดูกและเนื้อเยื่อเส้นเอ็นกล้ามเนื้อ รวมทั้งชั้นไขมันจะฝ่อตัวสลายไป ทำให้แผลเป็นหลุมสิวดูแย่ลงหรือเป็นมากขึ้นได้เมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งหมายความว่า แม้จะทำการรักษาผู้ป่วยที่มีแผลเป็นยุบได้อย่างเหมาะสมเพียงพอแล้ว แต่การสูญเสียปริมาตรของโครงสร้างผิวตามกลไกธรรมชาติ (Aging process: Age-related Volume loss)ดังกล่าว ก็ยังดำเนินต่อไป จึงควรรักษาภาวะเหล่านี้ร่วมด้วยอย่างต่อเนื่องเสมอ

เมื่อแผลเป็นหลุมสิวมีอายุมากขึ้น ริ้วรอยเหี่ยวย่นและร่องลึกแห่งวัย ก็จะก่อตัวขึ้นในแผลเป็นหลุมสิวนั้นด้วย การฉีดฟิลเลอร์เข้าไปพยุงไว้ใต้บริเวณหลุมสิว ถือเป็นการป้องกันไม่ให้ร่องลึกแห่งวัยเกิดขึ้นเร็วจนทำให้หลุมสิวดูรุนแรงขึ้น แต่ถ้าหากมีริ้วรอยร่องลึกอยู่แล้ว ก็ควรฉีดฟิลเลอร์แก้ไขและยกกระชับริ้วรอยแห่งวัยนั้นไปด้วย
 
การสูญเสียปริมาตรตามวัยของเนื้อเยื่อและชั้นกระดูกที่พยุงใบหน้าจากอายุที่มากขึ้น (Aging process: Age-related Volume loss)นั้น สามารถรักษาได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งจาก2วิธีนี้เท่านั้น คือ การฉีดฟิลเลอร์สารเติมเต็ม และการฉีดไขมัน
**กลุ่มเครื่องมือพลังงานเลเซอร์ ไม่สามารถทำให้เกิดการเพิ่มปริมาตรของโครงสร้างเนื้อเยื่อที่พยุงใบหน้าได้เลย
 
หากคนไข้มีอายุมากขึ้นแล้วมีปัญหาที่โครงสร้างพยุงผิวตามวัยร่วมด้วย การใช้สารเติมเต็ม เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและช่วยยกพยุงผิวหนัง จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ผลลัพธ์ผิวหน้าโดยรวมดีขึ้นได้มากที่สุด
ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดรอยแผลเป็นหลุมสิว

  • ฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic acid (HA) : ฟิลเลอร์ประเภทนี้มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากมียาที่ใช้สลายได้ทันที มีที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ใช้ในการเติมเต็มหลุมสิวแบบที่มีการยุบตัวลงของเนื้อเยื่อชั้นไขมันและปากแผลกว้าง เช่น Rolling scar, Boxcar scar ฟิลเลอร์ชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นในด้านการเติมเต็ม แต่ก็ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนที่ผิวได้เช่นกันผ่านกลไก Fibroblast stretching 
  • นอกจากนี้ยังมี HA ชนิดที่มีคุณสมบัติเป็นแบบ Hybrid คือได้ทั้งเติมเต็มและกระตุ้นคอลลาเจนได้ดี คือ  High-And-Low-Molecular-Weight Hyaluronic acid หรือชื่อการค้า Profhilo
  • ฟิลเลอร์ชนิด Biostimulators : ฟิลเลอร์ประเภทนี้มีคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจนที่ผิวโดยตรง ด้วยกลไกทางชีวภาพของส่วนประกอบในฟิลเลอร์เหล่านั้น เช่น สาร PLLA (Poly-L-Lactic Acid) หรือชื่อการค้า Sculptra, สาร CaHA (Calcium Hydroxy Apatite) หรือชื่อการค้า Radiesse, สาร Polymethyl mathacrylate (PMMA) หรือชื่อการค้า Bellafill, สาร Polycaprolactone (PCL) หรือชื่อการค้า Gouri, Ellanse, Lafullen
****สารเติมเต็มกลุ่มนี้หลายตัวเป็นที่นิยมสำหรับเติมหลุมสิวในต่างประเทศ โดยเฉพาะ Bellafill ที่ผ่าน USFDAในข้อบ่งชี้เพื่อรักษาหลุมสิวโดยตรง แต่ในปัจจุบันตัวที่ผ่าน อย.ในไทย มีเพียง Sculptra และ Gouri เท่านั้น 
  • ฟิลเลอร์ชนิดถาวร: ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่แก้ไขไม่ได้ในระยะยาว

สารเติมเต็ม Filler มีบทบาทอย่างไรในการรักษาหลุมสิว?
ในการทำ Subcision ผ่าตัดพังผืด ร่วมกับการฉีดสารเติมเต็ม เป็นหัตถการอย่างหนึ่งที่มักจะให้ผลลัพธ์หลังการรักษาที่ชัดเจนและดีขึ้นในทันที อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดขึ้นอยู่กับแผลเป็นหลุมสิวในแต่ละบุคคล ความรุนแรงของแผลเป็นจากสิว ปริมาณของพังผืด ตำแหน่งของเนื้อเยื่อแผลเป็น และความหนาของผิวหนังคนไข้ด้วย

ในการรักษาหลุมสิว สารเติมเต็ม Filler มีบทบาทดังนี้

  • เป็นบัฟเฟอร์กั้นไม่ให้พังผืดที่ตัดไปกลับมาติดกันอีก
  • เป็นสารเติมเต็มแทนที่เนื้อเยื่อที่ขาดหายไปของแผลเป็นหลุมสิว
  • สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้โดยตรง จากคุณสมบัติของฟิลเลอร์กลุ่มที่เป็น Collagen Stimulating Filler (เช่น PLLA, CAH, PMMA, LHMHA, PCL Filler) หรือแม้แต่กลุ่มที่เป็น Volumizing Filler อย่าง HA Filler ก็สามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้จากกลไก fibroblast stretching ได้เช่นกัน

หลักการสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ คือ ขั้นตอนการแก้ไขแผลเป็นหลุมสิวทั้งหมดนี้ จะอาศัยระบบภูมิคุ้มกันของคนไข้เองในการซ่อมแซมและสร้างคอลลาเจนใหม่ ในบางกรณีที่เนื้อเยื่อไขมันยุบฝ่อตัวลงเป็นบริเวณกว้างและลึกมาก ระบบภูมิคุ้มกันที่สร้างเนื้อเยื่อใหม่ด้วยร่างกายของคนไข้เอง จะไม่สามารถสร้างคอลลาเจนใหม่มาทดแทนตรงจุดนี้ได้เลย ดังนั้นจะเหลือทางเลือกเพียง 2 ทางคือ การฉีดเติมเต็ม ด้วยไขมัน กับการฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ เท่านั้นเอง
การฉีดไขมันตัวเองเพื่อเติมหลุมสิว ไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากประมาณการณ์หรือคาดเดาอัตราการติดได้ลำบาก การติดของไขมันที่ฉีดขึ้นกับปัจจัยหลายอย่างมาก ไม่สามารถคาดการณ์ความแน่นอนที่จะติดได้
ฟิลเลอร์หลุมสิวต้องใช้ปริมาณมากแค่ไหน
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ในการฉีดเติมหลุมสิวในคนไข้แต่ละรายนั้นแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับโครงสร้างผิวเดิมของคนไข้ ลักษณะความลึกกว้างของหลุมสิว และข้อจำกัดของคนไข้แต่ละราย

แพทย์ผู้ทำการรักษาจะต้องทำการประเมินรอยแผลเป็นและตัดสินใจเลือกขนาดยาที่ดีที่สุดหลังจากซักประวัติและตรวจร่างกายผู้ป่วยแล้ว หากผู้ป่วยมีประวัติภาวะแทรกซ้อนจากฟิลเลอร์ผิวหนัง หรือหากมีงบประมาณจำกัด อาจต้องใช้ขนาดยาที่น้อยลงกว่ามาตรฐานในช่วงเริ่มต้น แล้วขยายระยะเวลาการรักษา จำนวนครั้งที่ทำมากขึ้น
 
โดยทั่วไปแล้ว ในการหวังผลกระตุ้นคอลลาเจน มักจะเริ่มต้นด้วย HA Filler หรือ ฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์ 1-3 cc หรือฟิลเลอร์กลุ่ม Biostimulator 1-2 โดส โดยอาจต้องทำการรักษาต่อเนื่องหลายครั้ง
ในส่วนของการเติมเต็มชั้นเนื้อเยื่อที่ยุบตัวลง ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้จะขึ้นกับลักษณะของหลุมสิว ว่ามีความกว้างลึกเพียงใด และต้องใช้มากน้อยเพียงใด


สรุป
การฉีดเติมเต็มหลุมสิว ไม่ว่าจะด้วยการใช้ฟิลเลอร์หรือสารฟื้นฟูเนื้อเยื่ออื่นๆ เป็นวิธีที่ทำให้หลุมสิวดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วที่สุด โดยเฉพาะในหลุมสิวประเภท Rolling scar และ boxcar scar บางประเภท

การฉีดเติมเต็มหลุมสิว หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้องโดยแพทย์ผู้ชำนาญ และเลือกใช้สารเติมเต็มหรือฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิว ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นฐานผิวของแต่ละบุคคลแล้ว ถึงแม้ว่าสารเติมเต็มนั้นจะสลายตัวหมดเมื่อเวลาผ่านไป แต่คอลลาเจนที่ถูกสร้างด้วยร่างกายคนไข้เองทั้งทางตรงและทางอ้อมยังคงอยู่ มากน้อยขึ้นกับชนิดของสารเติมเต็ม และพื้นฐานผิวเดิมตามกรรมพันธุ์ของคนไข้เอง

อย่างไรก็ตาม การเติมเต็มหลุมสิว เป็นหัตถการแพทย์ที่ต้องใช้ทักษะความชำนาญขั้นสูงกว่าการฉีดฟิลเลอร์ทั่วไปเป็นอย่างมาก และมีโอกาสเกิดการอุดตันของเส้นเลือดได้ จึงควรได้รับการดูแลรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเห็นผลดีที่สุด

Real Scar Synergy ( RSS )คืออะไร ?

  • เป็นโปรแกรมรักษาหลุมสิว ที่ศึกษามาจากอาจารย์แพทย์ชาวเกาหลี และเสริมเพิ่มเติมด้วยหัตถการเทคนิคเฉพาะโดยคุณหมอรมิตา
  • เป็นการทำหัตถรักษาหลุมสิวเพื่อให้เกิด Skin Regeneration ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยเนื้อเยื่อของเราเอง
  • ประกอบด้วย หัตถการหลักเทคนิคเฉพาะของ Dr. Ramita ที่คิดค้นขึ้นเพื่อปรับใช้กับคนไทย ทั้งนี้หัตถการที่ทำจะขึ้นอยู่กับประเภทหลุมสิวบนใบหน้า
  • ตามด้วยหัตถการพิเศษ คือการฉีดก๊าซเข้าไปตัดพังผืดและทำให้เกิดโพรงอากาศ แล้วฉีดตัวยาฟื้นฟูเนื้อเยื่อเข้าไป ซึ่งเป็นเทคนิควิธีเดียวกันกับที่เกาหลี
  • นอกจากนี้ยังเสริมด้วยหัตถการอื่นๆตามหลักการ 1. Specific Scar Revision คือการรักษาตามลักษณะของหลุมสิวที่เป็นแต่ละจุดโดยละเอียด โดยใช้วิธีการรักษาแตกต่างกันไปในแต่ละรอยหลุมสิว ไม่ใช่การรักษาเหมือนกันในทุกๆคนแบบ one size fit all เนื่องจากหลุมสิวมีหลายลักษณะ และพื้นฐานผิวของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน  2. Multimodality Approach หลักการสำคัญคือต้องใช้หลากหลายวิธีร่วมกันเพื่อให้ครอบคลุมปัญหาได้มากที่สุด เพราะบนใบหน้าเรามีหลุมสิวหลายแบบ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หมอจึงไม่ใช้แค่วิธีการรักษาเดียว รักษาหลุมสิวทุกแบบบนใบหน้า ดังนั้นการรักษาหลุมสิวจึงไม่ใช่แค่การใช้เครื่องมือเครื่องเดียวแล้วรักษาเคสหลุมสิวแบบเดียวกันกับทุกคน
ผลลัพธ์ที่ได้ หลังทำเพียงครั้งเดียว

จุดเด่นที่เหนือกว่าวิธีอื่น
  • เป็นเทคนิคการรักษาและตัวยาเดียวกันกับที่เกาหลี ผสมผสานกับวิธีมาตรฐานสากลแบบ Non-Energy Based Acne Scar Revision
  • เป็นวิธีการแก้หลุมสิว ที่ทำให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ (Skin Regeneration) ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยตัวเอง จึงให้ผลลัพธ์ที่ถาวร
  • ผลพลอยได้ ช่วยลดการอักเสบของผิว ผิวหนาแข็งแรงขึ้น ช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอยตื้นๆ ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส ฉ่ำวาว
  • ไม่ต้องทำบ่อย เห็นผลดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
  • ไม่เป็นสะเก็ดตาราง ไม่ต้องพักหน้า ผิวไม่บาง

เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่รักษามาหลายวิธีแล้ว แต่ยังไม่ดีขึ้น
  • ผู้ที่ทำเลเซอร์มาหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่ค่อยเห็นผล
  • ผู้ที่ไม่สามารถพักหน้าหลังทำเลเซอร์ได้
  • ผู้ที่ผิวบาง ระคายเคืองง่าย มีเส้นเลือดฝอยที่หน้า เป็นฝ้า มีข้อจำกัดในการทำเลเซอร์ลอกผิว
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาในการดูแลรักษามาก แต่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน
  • ผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวเพิ่มเติม หลังจากทำเลเซอร์จนครบคอร์สหลายครั้งแล้ว

ขั้นตอนการทำ
คุณหมอจะเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ลักษณะของใบหน้าโดยรวม และปัญหาหลุมสิวที่คนไข้เป็นอย่างละเอียด ตามด้วยระบุประเภทหลุมสิวแต่ละจุด ทีละจุดบนใบหน้า ประเมินลักษณะผังผืด และประเมินสภาพพื้นฐานผิวของคนไข้ได้อย่างถี่ถ้วน ถือเป็นจุดเริ่มต้นวางแผนการรักษาที่สำคัญมาก

เมื่อประเมินลักษณะปัญหาหลุมสิวของคนไข้ได้อย่างละเอียดดีแล้ว จึงค่อยวางแผนเลือกใช้วิธีการรักษาให้เหมาะสมกับคนไข้เฉพาะบุคคล หมอจึงต้องคอยปรับแต่งแผนการรักษาโดยตลอดให้เหมาะกับคนไข้แต่ละคน

  • ปรึกษาวิเคราะห์ปัญหา วางแผนการรักษาร่วมกัน 15-30 นาที
  • ก่อนทำจะมีการแปะยาชา 45-60 นาที
  • หัตถการหลักเกาหลี ฉีดก๊าซเข้าไปตัดพังผืดและทำให้เกิดโพรงอากาศ แล้วฉีดตัวยาฟื้นฟูเนื้อเยื่อเข้าไป ซึ่งเป็นเทคนิควิธีเดียวกันกับที่เกาหลี 20-30 นาที
  • หัตถการพิเศษเทคนิคเฉพาะของ Dr. Ramita ประมาณ 15-20 นาที (หลายหัตถการร่วมกัน)
  • ฉีดตัวยา กลุ่ม Skin Regeneration ตัวยาขึ้นอยู่กับปัญหาแต่ละรายบุคคล
  • ลงเซรั่ม Biorepair ช่วยฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน สูตรเฉพาะ Real Clinic (ให้กลับบ้านด้วย) 

*หัตถการพิเศษ ด้วยเทคนิคเฉพาะของหมอรมิตา" หัตถการที่จะใช้ขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล "

  • Surgical Subcision ตัดเซาะผังผืดด้วยเข็มชนิดพิเศษ เทคนิคเฉพาะตัว จึงสามารถตัดผังผืดได้อย่างทั่วถึงตรงจุดแบบ Multilevel โดยไม่มีรอยช้ำห้อเลือด แบบการตัดผังผืดด้วยเข็มคมเทคนิคเดิมๆ
  • ฉีดสารเติมเต็ม Filler ในบางเคสที่เนื้อเยื่อที่ฝ่อยุบตัวอย่างรุนแรง จนการฟื้นฟูผิวด้วยตัวเองสร้างขึ้นมาไม่ทัน ต้องอาศัยการฉีด สารเติมเต็ม Filler เพื่อเข้าไปทดแทน และเป็นบัฟเฟอร์กันชนไม่ให้พังผืดที่ตัดไปแล้ว กลับมารวมตัวกันอีก
  • Air dissector เป็นการใช้ก๊าซตัดพังผืดชั้นตื้น เพื่อเก็บรายละเอียดอีกครั้ง และช่วยลดอาการบวมช้ำ ทำให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
  • Collagen Induction Therapy (CIT Dermafix) เป็นการรักษาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว โดยผลัดผิวชั้นบน และผลักตัวยาสำคัญให้เข้าถึงทั่วทุกบริเวณอย่างล้ำลึก 
  • Chemical Reconstruction คือการใช้สารเคมีทางการแพทย์มาช่วยกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ขึ้นมาจากก้นหลุมแบบโดยเฉพาะทีละจุด โดย TCA CROSS/Paint Technique ด้วยความเข้มข้นและเทคนิคที่เหมาะสมตามแต่ผิวคนไข้แต่ละราย

*กลุ่มตัวยาสำคัญที่หมอจะเลือกใช้ : Polynucleotides,Exosome, Growth Factor, กรดไฮยาลูรอนิคอนุภาคเล็ก, Peptides 
ซึ่งในแต่ละกลุ่มตัวยา ก็จะจำแนกตัวยาไปอีกหลายตัวเลยค่ะ ทั้งนี้การเลือกใช้ตัวยาไหนขึ้นอยู่กับ ดุลยพินิจแพทย์และปัญหาของคนไข้แต่ละบุคคล ซึ่งเป็นการรวบรวมตัวยาสำคัญหลายชนิด แบบ Combination Therapy ควบคู่กับการทำหัตถการแพทย์ เพื่อช่วยเรียกเนื้อหลุมสิว กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อผิวใหม่ให้มาเติมเต็มรอยยุบได้อย่างถาวร กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวเรียบเนียน สว่างใสฉ่ำวาวยิ่งขึ้น ฟื้นฟูคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น

  • ฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้เกิด Skin Regeneration ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยเนื้อเยื่อด้วยตัวเอง และฉีดสารตัวยาสำคัญเข้าไปแทนที่
  • Skin Regeneration Agents* การฉีดสารที่ช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อด้วยตัวเอง มีหลายชนิดตามดุลยพินิจแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ได้แก่ กรดไฮยาลูรอนิคอนุภาคเล็ก, Polynucleotides PN, PDRN, Peptides, Exosome  
  • เทคนิคที่ได้รับการอบรมโดยตรงจากอาจารย์แพทย์ชื่อดังของเกาหลี

รักษาอะไรได้บ้าง

  • เน้นรอยแผลเป็นหลุมสิว
  • รอยแผลเป็นอีสุกอีใส
  • รอยแผลเป็นจากอุบัติเหตุ
  • ริ้วรอยต่างๆ หน้าผาก หว่างคิ้ว ตีนกา ร่องแก้มร่องน้ำหมาก

ข้อจำกัดการรักษา

  • ไม่ได้ทำให้ผิวเรียบเนียนกริบ 100% เสมือนผิวที่ไม่เคยมีแผลเป็นหรือริ้วรอยมาก่อน
  • แม้ผังผืดจะถูกตัดให้แยกออกจากกัน แต่เนื่อเยื่อแผลเป็นยังคงอยู่ ไม่ได้ถูกตัดออกไปนอกร่างกายเลย จึงมีโอกาสกลับมาจับตัวเป็นหลุมได้อีก โดยเฉพาะถ้ามีการเกิดสิวใหม่
  • หลุมสิวแบบจิกลึก ขอบคมชัด อาจเห็นผลไม่มากในครั้งแรก แต่คุณภาพผิวโดยรวมจะดูดีและแข็งแรงขึ้น
  • ช่วง 1-2 สัปดาห์แรก มักยังมีอาการบวมจากการทำหัตถการ อาจทำให้หลุมดูตื้นขึ้นเกินเนื้อจริงได้

ข้อควรระวังหลังการรักษา

  • หลังทำจะมีรอยแดงจากเข็ม และตุ่มแดงเหมือนยุงกัด วันรุ่งขึ้นจะค่อยๆจางลง ไม่มีแผลตารางตกสะเก็ด
  • หลังทำหัตถการ 24 ชั่วโมง สามารถแกะผ่าก๊อซที่ปิดแผลไว้ได้ และสามารถล้างหน้า/แต่งหน้า/ทาแป้งได้ตามปกติ
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดอย่างน้อย 5 วัน
  • หลังการรักษา 2 วัน ควรงดการออกกำลังกาย อบซาวน่า แช่ออนเซน
  • ช่วง 1-2 สัปดาห์แรก อาจมีอาการบวม ทำให้ดูตื้นขึ้นเกินเนื้อจริง
  • ควรระวังไม่ใช้มือกดผิวบริเวณที่ทำการรักษา และไม่กดผิวแรงๆบริเวณนั้น
  • งดการโดนน้ำบริเวณที่ทำการรักษาจนกว่าจะแกะผ้าก็อซออก

Powered by MakeWebEasy.com