ศัลยกรรมหลุมสิวคืออะไร? เป็นการรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุดจริงหรือ ?

Last updated: 17 ก.ค. 2566  |  4570 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ศัลยกรรมหลุมสิวคืออะไร? เป็นการรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุดจริงหรือ ?

 " การรักษารอยแผลเป็น'หลุมสิว' เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ทางการแพทย์ เป็นหนึ่งในการรักษาที่หมอมีความถนัดชำนาญ และชอบเป็นการส่วนตัวค่ะ เนื่องจากหมอก็เป็นคนที่มีปัญหาหลุมสิวด้วยเหมือนกัน หมอจึงศึกษาและติดตามอัพเดทการรักษาหลุมสิวมาโดยตลอด ตั้งแต่ตอนเรียนแพทย์ทั่วไป เรียนแพทย์ต่อยอดด้านผิวหนัง มาจนถึงปัจจุบัน 

โดยเทคนิคเฉพาะตัวที่หมอถนัดและเชี่ยวชาญและเชื่อมั่นในผลลัพธ์ที่สุด จะเป็นกลุ่มการรักษาด้วยหัตถการเน้นมือแพทย์เป็นหลัก (Non-Energy Based Scar Revision) และใช้เลเซอร์เป็นเพียงส่วนเสริมเก็บรายละเอียดเท่านั้น

เทคนิควิธีของหมอในการรักษาแผลเป็นหลุมสิวนั้นเป็นแบบเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร อาศัยทักษะความสามารถ เทคนิคขั้นสูงในการทำหัตถการการรักษาหลุมสิว เป็นงานฝีมือแพทย์ที่ต้องใช้ความชำนาญและความละเอียดเฉพาะตัวเป็นอย่างมาก และต้องเข้าใจเรื่องหลุมสิวอย่างถ่องแท้ รู้ว่าวิธีการรักษาหลุมสิวประเภทนี้ มีวิธีใดใช้รักษาได้บ้าง และนำมาปรับใช้กับคนไข้ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดโดยเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด


สารบัญหลุมสิว

1. Real Scar Synergy



** เคสรีวิวจริง จากคนไข้จริง ได้รับอนุญาตจากคนไข้แล้วจึงนำมาให้ชมกันค่ะ (ซูมได้)

Real Scar Synergy ( RSS )คืออะไร ?

  • เป็นโปรแกรมรักษาหลุมสิว ที่ศึกษามาจากอาจารย์แพทย์ชาวเกาหลี และเสริมเพิ่มเติมด้วยหัตถการเทคนิคเฉพาะโดยคุณหมอรมิตา
  • เป็นการทำหัตถรักษาหลุมสิวเพื่อให้เกิด Skin Regeneration ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยเนื้อเยื่อของเราเอง
  • ประกอบด้วย หัตถการหลัก คือการฉีดก๊าซเข้าไปตัดพังผืดและทำให้เกิดโพรงอากาศ แล้วฉีดตัวยาฟื้นฟูเนื้อเยื่อเข้าไป ซึ่งเป็นเทคนิควิธีเดียวกันกับที่เกาหลี
  • ตามด้วยหัตถการพิเศษ เทคนิคเฉพาะของ Dr. Ramita ที่คิดค้นขึ้นเพื่อปรับใช้กับคนไทย ทั้งนี้หัตถการที่ทำจะขึ้นอยู่กับประเภทหลุมสิวบนใบหน้า
  • นอกจากนี้ยังเสริมด้วยหัตถการอื่นๆตามหลักการ 1. Specific Scar Revision คือการรักษาตามลักษณะของหลุมสิวที่เป็นแต่ละจุดโดยละเอียด โดยใช้วิธีการรักษาแตกต่างกันไปในแต่ละรอยหลุมสิว ไม่ใช่การรักษาเหมือนกันในทุกๆคนแบบ one size fit all เนื่องจากหลุมสิวมีหลายลักษณะ และพื้นฐานผิวของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน  2. Multimodality Approach หลักการสำคัญคือต้องใช้หลากหลายวิธีร่วมกันเพื่อให้ครอบคลุมปัญหาได้มากที่สุด เพราะบนใบหน้าเรามีหลุมสิวหลายแบบ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หมอจึงไม่ใช้แค่วิธีการรักษาเดียว รักษาหลุมสิวทุกแบบบนใบหน้า ดังนั้นการรักษาหลุมสิวจึงไม่ใช่แค่การใช้เครื่องมือเครื่องเดียวแล้วรักษาเคสหลุมสิวแบบเดียวกันกับทุกคน

ผลลัพธ์ที่ได้ หลังทำเพียงครั้งเดียว


จุดเด่นที่เหนือกว่าวิธีอื่น

  • เทคนิคการรักษาและตัวยาเดียวกันกับที่เกาหลี
  • เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
  • เป็นวิธีการแก้หลุมสิว ที่ทำให้เกิดการสร้างเนื้อผิวใหม่(Skin Regeneration) ฟื้นฟูผิวหนังด้วยตัวเอง จึงให้ผลลัพธ์ที่ถาวร
  • ผลพลอยได้ ช่วยลดการอักเสบของผิว ผิวหนาแข็งแรงขึ้น ช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอยตื้นๆ ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส ฉ่ำวาว
  • ไม่ต้องทำบ่อย เห็นผลดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก
  • ไม่เป็นสะเก็ดตาราง ไม่ต้องพักหน้า ผิวไม่บาง

เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่รักษามาหลายวิธีแล้ว แต่ยังไม่ดีขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวเพิ่มเติม หลังจากทำเลเซอร์จนครบคอร์สหลายครั้งแล้ว
  • ผู้ที่ทำเลเซอร์มาหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่ค่อยเห็นผล
  • ผู้ที่ไม่สามารถพักหน้าหลังทำเลเซอร์ได้
  • ผู้ที่ผิวบาง ระคายเคืองง่าย มีเส้นเลือดฝอยที่หน้า เป็นฝ้า มีข้อจำกัดในการทำเลเซอร์ลอกผิว

คุณหมอจะเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ลักษณะของใบหน้าโดยรวม และปัญหาหลุมสิวที่คนไข้เป็นอย่างละเอียด ตามด้วยระบุประเภทหลุมสิวแต่ละจุด ทีละจุดบนใบหน้า ประเมินลักษณะพังผืด และประเมินสภาพพื้นฐานผิวของคนไข้ได้อย่างถี่ถ้วน ถือเป็นจุดเริ่มต้นวางแผนการรักษาที่สำคัญมาก

เมื่อประเมินลักษณะปัญหาหลุมสิวของคนไข้ได้อย่างละเอียดดีแล้ว จึงค่อยวางแผนเลือกใช้วิธีการรักษาให้เหมาะสมกับคนไข้เฉพาะบุคคล หมอจึงต้องคอยปรับแต่งแผนการรักษาโดยตลอดให้เหมาะกับคนไข้แต่ละคน

  • ปรึกษาวิเคราะห์ปัญหา วางแผนการรักษาร่วมกัน 15-30 นาที
    ก่อนทำจะมีการแปะยาชา 45-60 นาที
  • หัตถการหลักเกาหลี ฉีดก๊าซเข้าไปตัดพังผืดและทำให้เกิดโพรงอากาศ แล้วฉีดตัวยาฟื้นฟูเนื้อเยื่อเข้าไป ซึ่งเป็นเทคนิควิธีเดียวกันกับที่เกาหลี 20-30 นาที
  • หัตถการพิเศษเทคนิคเฉพาะของ Dr. Ramita ประมาณ 15-20 นาที (หลายหัตถการร่วมกัน)
  • ฉีดตัวยา กลุ่ม Skin Regeneration ตัวยาขึ้นอยู่กับปัญหาแต่ละรายบุคคล
    ลงเซรั่ม Biorepair ช่วยฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน สูตรเฉพาะ Real Clinic (ให้กลับบ้านด้วย) 

  • ฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้เกิด Skin Regeneration ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยเนื้อเยื่อด้วยตัวเอง และฉีดสารตัวยาสำคัญเข้าไปแทนที่
  • Skin Regeneration Agents* การฉีดสารที่ช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อด้วยตัวเอง มีหลายชนิดตามดุลยพินิจแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ได้แก่ กรดไฮยาลูรอนิคอนุภาคเล็ก, Polynucleotides PN, PDRN, Peptides, Exosome  
    เทคนิคที่ได้รับการอบรมโดยตรงจากอาจารย์แพทย์ชื่อดังของเกาหลี
     

*หัตถการพิเศษ ด้วยเทคนิคเฉพาะของหมอรมิตา" หัตถการที่จะใช้ขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล "

  • Surgical Subcision ตัดเซาะพังผืดด้วยเข็มชนิดพิเศษ เทคนิคเฉพาะตัว จึงสามารถตัดพังผืดได้อย่างทั่วถึงแบบ Multilevel โดยไม่มีรอยช้ำห้อเลือด แบบการตัดพังผืดด้วยเข็มคมเทคนิคเดิมๆ
  • Sequential CO2 Subcision เป็นการใช้ก๊าซ CO2 ตัดพังผืดชั้นตื้น เพื่อเก็บรายละเอียดอีกครั้ง และช่วยลดอาการบวมช้ำ ทำให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
    การฉีดฟื้นฟูผิวหนังตัวเอง ด้วยการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว และฉีดสารตัวยาสำคัญเข้าไปแทนที่
  • Collagen Induction Therapy (CIT Dermafix) เป็นการรักษาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว โดยผลัดผิวชั้นบน และผลักตัวยาสำคัญให้เข้าถึงทั่วทุกบริเวณอย่างล้ำลึก 
  • Chemical Reconstruction คือการใช้สารเคมีทางการแพทย์มาช่วยกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ขึ้นมาจากก้นหลุมแบบโดยเฉพาะทีละจุด โดย TCA CROSS/Paint Technique ด้วยความเข้มข้นและเทคนิคที่เหมาะสมตามแต่ผิวคนไข้แต่ละราย
  • การฉีดสารเติมเต็ม Filler เพื่อเข้าไปทดแทนเนื้อเยื่อที่ฝ่อยุบตัวอย่างรุนแรง จนการฟื้นฟูผิวด้วยตัวเองสร้างขึ้นมาไม่ทัน และเป็นบัฟเฟอร์กันชนไม่ให้พังผืดที่ตัดไปแล้ว กลับมารวมตัวกันอีก
  • Skin Regeneration Agents การฉีดสารที่ช่วยฟื้นฟูผิวหนังด้วยตัวเอง มีหลายชนิดตามดุลยพินิจแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่น กรดไฮยาลูรอนิคอนุภาคเล็ก, Polynucleotides,Exosome, Growth Factor, Peptides

*กลุ่มตัวยาสำคัญที่หมอจะเลือกใช้ : Polynucleotides,Exosome, Growth Factor, กรดไฮยาลูรอนิคอนุภาคเล็ก, Peptides 
ซึ่งในแต่ละกลุ่มตัวยา ก็จะจำแนกตัวยาไปอีกหลายตัวเลยค่ะ ทั้งนี้การเลือกใช้ตัวยาไหนขึ้นอยู่กับ ดุลยพินิจแพทย์และปัญหาของคนไข้แต่ละบุคคล ซึ่งเป็นการรวบรวมตัวยาสำคัญหลายชนิด แบบ Combination Therapy ควบคู่กับการทำหัตถการแพทย์ เพื่อช่วยเรียกเนื้อหลุมสิว กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อผิวใหม่ให้มาเติมเต็มรอยยุบได้อย่างถาวร กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวเรียบเนียน สว่างใสฉ่ำวาวยิ่งขึ้น ฟื้นฟูคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น 

รักษาอะไรได้บ้าง

  • รอยแผลเป็นสิว
  • รอยแผลเป็นต่างๆจากอุบัติเหตุ
  • รอยแผลเป็นอีสุกอีใส
  • ริ้วรอยต่างๆ หน้าผาก หว่างคิ้ว ตีนกา ร่องแก้มร่องน้ำหมาก

ข้อจำกัดการรักษา

  • ไม่ได้ทำให้ผิวเรียบเนียนกริบ100% เสมือนผิวที่ไม่เคยมีแผลเป็นหรือริ้วรอยมาก่อน
  • แม้พังผืดจะถูกตัดให้แยกออกจากกัน แต่เนื่อเยื่อแผลเป็นยังคงอยู่ ไม่ได้ถูกกำจัดออกไปแบบการผ่าตัดเเอาออก แล้วเย็บหลุม
  • หลุมสิวแบบจิกลึก ขอบคมชัด อาจเห็นผลไม่มากในครั้งแรก แต่คุณภาพผิวโดยรวมจะดูดีขึ้น
  • ช่วง 1-2 สัปดาห์แรก อาจมีอาการบวม ทำให้ดูตื้นขึ้นเกินเนื้อจริง

ข้อควรระวังหลังการรักษา
  • หลังทำจะมีรอยแดงจากเข็ม และตุ่มแดงเหมือนยุงกัด วันรุ่งขึ้นจะค่อยๆจางลง ไม่มีแผลตารางตกสะเก็ด
  • หลังทำหัตถการ 24 ชั่วโมง สามารถแกะผ่าก๊อซที่ปิดแผลไว้ได้ และสามารถล้างหน้า/แต่งหน้า/ทาแป้งได้ตามปกติ
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 5วันขึ้นไป
  • หลังการรักษา2วัน ควรงดการออกกำลังกาย อบซาวน่า แช่ออนเซน
  • ควรระวังไม่ใช้มือกดผิวบริเวณที่ทำการรักษา และไม่กดผิวแรงๆบริเวณนั้น
  • หลังการรักษาจะมีการปิดเทปผ้าก็อซ1-2วัน เพื่อรักษาผิวบริเวณนั้นและป้องกันการติดเชื้อ
  • งดการโดนน้ำบริเวณที่ทำการรักษาจนกว่าจะแกะผ้าก็อซออก



Q : Real Acne Scar Synergy แตกต่างจากการรักษาหลุมสิวที่เกาหลีอย่างไร?
A : การรักษาหลุมสิวที่เกาหลีส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การฉีดมากกว่าการทำเลเซอร์ โดยเทคนิคเฉพาะที่มีการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และกรดไฮยาลูโรนิคอนุภาคเล็กเข้าไปทำให้เกิดการฟื้นฟูผิวด้วยตัวเองนั้น มีข้อดีตรงที่เห็นผลชัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ผลลัพธ์คงอยู่ได้ยาวนานส่วนใหญ่คนไข้จะนิยมทำแค่บางจุดที่เด่นชัดจริงๆเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ค่อนข้างสูงมากและวิธีนี้มีข้อจำกัดในการรักษาหลุมสิวแบบ deep icepick และ deep boxcar scar 

โปรแกรม REAL Acne Scar Synergy ก็มีการรักษาด้วยเทคนิคเดียวกันกับที่เกาหลีนี้รวมอยู่ในหัตถการหลักด้วย แต่จะแตกต่างตรงตัวยาที่ฉีดเข้าไป(ของทางเกาหลีจะมีเฉพาะกรดไฮยาลูโรนิคอย่างเดียว หรือบางคลินิกจะเป็นสาร PDRN เท่านั้น) สูตรตัวยาแบบเฉพาะของหมอที่ฉีดเข้าไปแล้วทำให้เกิด Skin Regenerationร่วมกับการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้นเป็นการรวบรวมตัวยาที่มีงานวิจัยรับรองแล้วว่ากระตุ้นและเพิ่มคอลลาเจนใต้ผิวได้จริง ได้แก่ ไฮยาลูโรนิคแอซิด โพลีนิวคลิโอไทด์ เอกซ์โซโซม โกรทแฟคเตอร์และวิตามินสารอาหารผิวต่างๆ ที่ช่วยบำรุงผิวด้วยอีกทั้งยังมีหัตถการอื่นๆทำควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดพังผืด SurgicalSubcision ด้วยเครื่องมือพิเศษเฉพาะแต่ละหลุม, Chemical Reconstruction TCA CROSS/PAINT, Collagen Induction Therapy เพื่อให้ครอบคลุมปัญหาหลุมสิวที่คนไข้เป็นได้มากที่สุดค่ะ


Q : Real Acne Scar Synergy แตกต่างจากคอร์สเลเซอร์อย่างไร
A : Real Scar Synergy เป็นการดูแลรักษาหลุมสิวแบบองค์รวม โดยใช้หัตถการฝีมือแพทย์เป็นหลัก หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่ากลุ่มการรักษาแบบ Non-Energy Based Acne Scar Revision

  • ซึ่งจะใช้วิธีที่เฉพาะเหมาะสมกับหลุมสิวแต่ละประเภทหลากหลายหัตถการร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้หมออาจมีการใช้เลเซอร์เพื่อเก็บราละเอียดผิวตามหลัง เป็นการรักษาเสริมเพิ่มเติมเท่านั้น (ขึ้นกับประเภทย่อยของหลุมสิวและความพึงพอใจส่วนตัวของคนไข้)
  • การรักษาด้วยกลุ่มเทคนิคนี้ จำเป็นต้องใช้ความละเอียดประณีตและทักษะฝีมือความชำนาญของแพทย์เป็นหลัก จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีโดยเฉพาะในหลุมสิวชนิดรุนแรงที่มีพังผืดดึงรั้งเยอะและเนื้อยุบเป็นบริเวณกว้างการรักษาด้วยเลเซอร์จะไม่สามารถแก้ไขได้เลย จำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีหัตถการเท่านั้น 
  • ส่วนคอร์สเลเซอร์ที่มีทั่วไป จะเป็นการรักษาโดยใช้พลังงานเลเซอร์มากระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวเป็นหลักทางการแพทย์เรียกกลุ่มการรักษานี้ว่า Energy Based Acne Scar Treatment กลุ่มเลเซอร์ที่ใช้มีหลากหลายต้นกำเนิดพลังงานและหลากหลายแบรนด์เทคโนโลยีมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น CO2 Full Ablative/Fractional, Erbium Full Ablative/Fractional, Fractional RF(Ematrix, Fractora, Infini, Genius), Picosecond laser (PicoDiscovery, Picosure, Picoway, Picoplus), Dual 1550/1927 nm (Frexel Re:store)
  • โดยหลักการแล้วการใช้เลเซอร์ที่ได้มาตรฐานมีงานวิจัยรองรับ พลังงานจะเสถียร และเมื่อทำโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ปรับตั้งค่าเครื่องได้อย่างถูกต้องแม่นยำแล้วจะสามารถทำให้หลุมสิวบางประเภทที่ไม่รุนแรงมากดีขึ้นได้
  • แต่ในหลุมสิวที่รุนแรงและมีพังผืดดึงรั้งลึกมากหากทำเพียงแค่เลเซอร์อย่างเดียวเป็นคอร์สต่อไปเรื่อยๆ จะไม่มีทางรักษาให้หลุมสิวนั้นดีขึ้นอย่างแท้จริงได้เลยอย่างไรก็ตามการทำเลเซอร์ก็ถือเป็นอีกวิธีรักษาแบบเสริมที่ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพหากเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับประเภทหลุมสิวและสภาพผิวของคนไข้ค่ะ

Q : Real Acne Scar Synergy แตกต่างจากการผ่าตัดเย็บหลุมสิวอย่างไร
A : การผ่าตัดเย็บหลุมสิวหรือที่เรียกว่า Punch excision เป็น 1 ในหัตถการแพทย์ของโปรแกรม Real Scar Synergy ค่ะ แต่หมอจะพิจารณาทำในเคสที่มีหลุมสิวประเภท icepick scars แบบรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีอื่นมาแล้วเท่านั้น 

เนื่องจากการผ่าตัดเย็บหลุมสิวนี้ เป็นการเปลี่ยนรูปแบบของแผลจิกลึกขอบหนา ให้กลายเป็นรูปแบบเส้นจางๆการผ่าตัดเย็บหลุมสิวจะต้องดูแลรอยแผลอย่างเคร่งครัด ห้ามแผลโดนน้ำและต้องกลับมาตัดไหมที่ 5-7 วันหลังจากนั้นต้องมีการทำเลเซอร์เพื่อลบรอยแผลใหม่ต่ออีกด้วยจึงเหมาะกับผู้ที่สามารถดูแลรักษาแผลหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัดได้จริงๆ

ในกลุ่มของการรักษาหลุมสิวด้วยการผ่าตัด จะมีเทคนิคอื่นๆอีก เช่น Punch grafting,Punch elevation ซึ่งโดยส่วนตัวหมอเองจะยังไม่ได้มีการรักษาด้วยเทคนิคนี้ในโปรแกรมของทางคลินิกค่ะ


Q : หลักการของ Real Acne Scar Synergy คืออะไร
A :  - Specific Scar Revision หมอจะรักษาตามลักษณะของหลุมสิวที่เป็นแต่ละจุดโดยละเอียดโดยใช้วิธีการรักษาแตกต่างกันไปในแต่ละรอยหลุมสิว ไม่ใช่การรักษาเหมือนกันในทุกๆคนแบบ one size fit all เนื่องจากหลุมสิวมีหลายลักษณะ และพื้นฐานผิวของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน หลักการสำคัญคือต้องใช้หลากหลายวิธีร่วมกันเพื่อให้ครอบคลุมปัญหาได้มากที่สุด เพราะบนใบหน้าเรามีหลุมสิวหลายแบบ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หมอจึงไม่ใช้แค่วิธีการรักษาเดียว รักษาหลุมสิวทุกแบบบนใบหน้า ดังนั้นการรักษาหลุมสิวจึงไม่ใช่แค่การใช้เครื่องมือเครื่องเดียวแล้วรักษาเคสหลุมสิวแบบเดียวกันกับทุกคน
- Real Scar Synergy เป็นการทำหัตถการรักษาหลุมสิว เพื่อให้เกิด Skin Regeneration สร้างชั้นผิวขึ้นมาใหม่ด้วยผิวของเราเอง โดยรวบรวมทุกหัตถการการรักษาหลุมสิวทั้งแบบหลักและแบบทางเลือก Multimodality Approach ด้วยเทคนิคเฉพาะหลุม Specific Scar Revision ร่วมกับใช้ตัวยาสำคัญที่ช่วยเรียกเนื้อหลุมสิว


Q : หัตถการที่แพทย์ทำ ต่อ 1 เคสทำอะไรบ้าง
A : หมอจะใช้หลายๆหัตถการร่วมกัน ในการรักษาครั้งเดียวเลยค่ะ ด้วยปัญหาของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน หัตถการที่ใช้และตัวยาก็จะแตกต่างกันออกไป

โดยหัตถการหลักที่ทำให้ทุกเคส คือ การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปตัดพังผืดและสร้างโพรงอากาศ แล้วฉีดสารฟื้นฟูเนื้อหลุมสิว Skin Regeneration Agents เช่น กรดไฮยาลูโรนิคอนุภาคเล็ก เข้าไป เพื่อการฟื้นฟูหลุมสิวด้วยเนื้อเยื่อตัวเองเทคนิคจากเกาหลี 

และ หัตถการพิเศษของ Dr. Ramita " ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจแพทย์และสภาพผิวของแต่ละบุคคล " หมอขอยกตัวอย่างหัตถการที่แพทย์จะเลือกใช้ให้ดูนะคะ ซึ่งแต่ละหัตถการก็อมีหลายเครื่องมือ หลายตัวยาให้เลือกใช้แยกออกไปอีก  

  • Surgical Subcision ตัดเซาะพังผืดด้วยเข็มชนิดพิเศษ เทคนิคเฉพาะตัว จึงสามารถตัดพังผืดได้อย่างทั่วถึงแบบ Multilevel โดยไม่มีรอยช้ำห้อเลือด แบบการตัดพังผืดด้วยเข็มคมเทคนิคเดิมๆ
  • Air Dissector เป็นการใช้ก๊าซตัดพังผืดชั้นตื้น เพื่อเก็บรายละเอียดอีกครั้ง และช่วยลดอาการบวมช้ำ ทำให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
    การฉีดฟื้นฟูผิวหนังตัวเอง ด้วยการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว และฉีดสารตัวยาสำคัญเข้าไปแทนที่
  • Collagen Induction Therapy (CIT Dermafix) เป็นการรักษาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว โดยผลัดผิวชั้นบน และผลักตัวยาสำคัญให้เข้าถึงทั่วทุกบริเวณอย่างล้ำลึก 
  • Chemical Reconstruction คือการใช้สารเคมีทางการแพทย์มาช่วยกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ขึ้นมาจากก้นหลุมแบบโดยเฉพาะทีละจุด โดย TCA CROSS/Paint Technique ด้วยความเข้มข้นและเทคนิคที่เหมาะสมตามแต่ผิวคนไข้แต่ละราย
  • การฉีดสารเติมเต็ม Filler เพื่อเข้าไปทดแทนเนื้อเยื่อที่ฝ่อยุบตัวอย่างรุนแรง จนการฟื้นฟูผิวด้วยตัวเองสร้างขึ้นมาไม่ทัน และเป็นบัฟเฟอร์กันชนไม่ให้พังผืดที่ตัดไปแล้ว กลับมารวมตัวกันอีก
  • Skin Regeneration Agents การฉีดสารที่ช่วยฟื้นฟูผิวหนังด้วยตัวเอง มีหลายชนิดตามดุลยพินิจแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่น กรดไฮยาลูรอนิคอนุภาคเล็ก, Polynucleotides, Peptides

Q : เห็นผลดีแค่ไหน ?
A : ก่อนอื่นจำเป็นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า หลุมสิวคือแผลเป็นชนิดหนึ่งในปัจจุบันยังไม่มีวิธีใดที่จะทำให้หายเรียบเนียนกริบ เสมือนผิวปกติที่ไม่เคยมีแผลเป็นมาก่อนได้เลย 100%ผลลัพธ์การรักษาด้วยโปรแกรมนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทของหลุมสิวที่เป็น สภาพพื้นฐานผิว และข้อจำกัดของคนไข้เองโดยทั่วไปในหลุมสิวแบบ Rolling scar ที่ปากแผลกว้าง ขอบไม่ชัดมีพังผืดเกาะไม่ลึกและไม่หนามาก หมออาจรักษาให้ดีขึ้นได้ถึง 80-90% ได้ในการทำหัตถการเพียงครั้งเดียว แต่ในกรณีที่หลุมสิวรุนแรงกว่า มีพังผืดที่หนาและแข็งมากดึงรั้งกับไขมันกล้ามเนื้อชั้นลึกเยอะ อาจรักษาได้ยากขึ้น แบบนี้อาจต้องรักษา 2-3 ครั้งเพื่อให้ผลที่ดีขึ้น 50-70%


Q : ราคาเท่าไร ?
A : เริ่มต้นที่ 39,900 บาท 


Q : ผลข้างเคียง ความปลอดภัย
A : เป็นหัตถการแพทย์ที่มีความปลอดภัยสูง อาจมีผลข้างเคียง บวม แดง ช้ำได้บ้าง ตามสภาพผิวของแต่ละบุคคลแต่ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหน้า ไม่มีสะเก็ดตาราง ไม่เบิร์นผิวค่ะ


Q : มี อย. ไทยไหม ?
A : ผลิตภัณฑ์ตัวยา รวมถึง เครื่องมือแพทย์ทุกตัวที่ใช้ในการทำหัตถการ มี อย. ไทย ทุกตัวค่ะ 


Q : ทำครั้งหนึ่งอยู่ได้นานแค่ไหน ถาวรไหม
A : พื้นฐานของโปรแกรมการรักษานี้ จะทำให้เกิดการตัดพังผืด และมีการสร้างคอลลาเจนฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวขึ้นมาใหม่ หากมองแค่ในหลักการนี้ก็จะถือว่าเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่ถาวรทำนองเดียวกันกับการทำเลเซอร์เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนขึ้นมาเติมหลุมสิวแต่หากมองในแง่ของการมี Aging process มาเกี่ยวข้องตามธรรมชาติของมนุษย์ร่วมด้วยแล้วคอลลาเจนที่ผิวสร้างขึ้นเองนี้จะมีการลดลงครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่(half-life) ในทุกๆประมาณ 15 ปีร่วมกับการสูญเสียปริมาตรของโครงสร้างที่พยุงใบหน้าทั้งชั้นเนื้อเยื่อไขมันและชั้นกระดูกเมื่อเวลาผ่านไป หากมองในแง่นี้ด้วยก็ควรจะถือว่าเป็นผลลัพธ์แบบกึ่งถาวร เพราะเมื่อทุกชั้นผิวหนังโดยรวมเกิดความเสื่อมสภาพลงตามวัย

ผลลัพธ์ของการรักษาหลุมสิวจากคอลลาเจนที่เคยดีขึ้น ก็มักจะร่วงโรยตามวัยด้วยเช่นกัน จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ว่าทำไมคนที่มีหลุมสิวแล้วไม่เคยได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมเลย เมื่ออายุมากขึ้นหลุมสิวจึงดูเด่นชัดรุนแรงมากขึ้นด้วยนอกจากนี้ในกรณีของหลุมสิว ที่มีการยุบตัวฝ่อลงของเนื้อเยื่อชั้นไขมันร่วมด้วย ซึ่งจำเป็นต้องฉีดสารเติมเต็มเข้าไปแทนที่เมื่อเวลาผ่านไปสารเติมเต็มนี้จะถูกสลายไปได้ตามกาลเวลา แต่ในขณะเดียวกัน การ Subcisionตัดพังผืดนี้ร่วมกับอีกคุณสมบัติของสารเติมเต็มที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ด้วยจะไปกระตุ้นให้ผิวหนังสร้างเส้นใยคอลลาเจนอิลาสตินขึ้นมาใหม่ ถือเป็นผลที่ได้อย่างถาวร(หรือกึ่งถาวร หากพิจารณาAging processด้วย) อย่างไรก็ตามคอลลาเจนที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ขึ้นกับยีนที่กำหนดในแต่ละบุคคลด้วย

Powered by MakeWebEasy.com