Last updated: 14 มี.ค. 2566 | 34689 จำนวนผู้เข้าชม |
การฉีดชาแนล ดูแลผิวสูตรลับฉบับสาวเกาหลี
การฉีด "ชาแนล" (ชื่อทางการคือ NCTF) เป็นที่นิยมในเกาหลี คือการทำทรีทเม้นท์ผิวที่ช่วยฟื้นฟูและปรับปรุงผิวที่เสื่อมสภาพ โดยมีส่วนประกอบที่เหมาะสมในการปรับปรุงการทำงานของไฟโบรบลาสต์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสื่อมสภาพของผิว ป้องกันการสร้างเม็ดสี ริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่น ทำหัตถการโดยหมอเบนซ์ แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ และได้อบรมการทำ จากเกาหลีโดยตรงค่ะ
NCTF คืออะไร ?
NCTF ย่อมาจาก New Cell Treatment Factor ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปรับปรุงการทำงานของไฟโบรบลาสต์ ฟื้นบำรุงผิวที่อ่อนแอ คล้ำเสีย เสื่อมสภาพ เหี่ยวย่น ให้เกิดผิวที่สุขภาพดีขึ้นได้
ส่วนประกอบสำคัญ อุดมไปด้วย
– กรดไฮยาลูโรนิก | ให้ความชุ่มชื้น เติมน้ำ และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
– กรดอะมิโน | ช่วยในการสร้างคอลลาเจน
– วิตามิน | ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์
– แร่ธาตุ | ช่วยในเรื่องของระบบเผาผลาญ ปรับสมดุลตามธรรมชาติ
– โคเอ็นไซม์ | ส่งเสริมการทำงานของไฟโบรบลาสต์
– กลูตาไธโอน | ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์
– เฮกเซน | เติมเต็มประจุเซลล์ ช่วยฟื้นฟูเซลล์ใหม่
ได้รับการพิสูจน์แล้ว สามารถการกระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์สูงถึง 135%
มีไฮยาลูโรนิกแอซิดที่มีโมเลกุลสูงกว่า 1.4 ล้านดาลตัน ซึ่งเป็นระดับที่ทำให้ผิวชุ่มชื้นและยืดหยุ่นได้มากที่สุด
จุดเด่นของชาแนล NCTF
- ประกอบด้วยส่วนผสมที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สามารถรักษาได้แม้ในผิวบอบบางและแพ้ง่าย ซึ่งยากในการรักษาด้วยเลเซอร์
- ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่มีผลข้างเคียงหรือสารแปลกปลอม และผ่านการทดสอบความปลอดภัยทั้งทาง Physical Chemical และ Biological แล้ว
- ประกอบด้วยส่วนผสมที่ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่า สามารถปรับปรุงการทำงานของไฟโบรบลาสต์ได้เป็นอย่างดี
ผลลัพธ์?
ทำให้ผิวเปล่งประกาย : ด้วยการทำงานของไฮยาลูโรนิกแอซิด และ complex factor ที่ลดการสร้างเม็ดสี ทำให้สีผิวถูกปรับให้สว่างยิ่งขึ้น และยังเพิ่มความชุ่มชื้นได้อีกด้วย ส่งผลให้ผิวเปล่งประกายแม้ไม่แต่งหน้า
การควบคุมความมัน : ช่วยปรับความสมดุลความในผิว จึงลดความมันส่วนเกิน และช่วยแก้ปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำให้ผิวเต่งตึง : ช่วยฟื้นฟูการทำงานและการสร้างไฟโบรบลาสต์ สาเหตุสำคัญของการเกิดริ้วรอย จึงช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว และลดริ้วรอย
Q&A
Q: เจ็บไหม?
A: ตัวยาแทบไม่แสบเลย อาจมีความเจ็บเล็กน้อยจากเข็มฉีดยา แต่จะมีการประคบเย็น และใช้เข็มเบอร์เล็กที่สุดช่วยลดความเจ็บปวดได้ เจ็บน้อยกว่าการฉีดโบทอกซ์
Q: ควรฉีดห่างกันเท่าไหร่?
A: ในครั้งแรก แนะนำฉีดต่อเนื่องกัน 3 ครั้ง ห่างกันทุก 2-3 สัปดาห์ จากนั้นทุกๆ 3-6 เดือน เพื่อคงสภาพการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเนื่องจากจำนวนครั้ง ปริมาณ และการรักษาที่เหมาะสมจะแตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล แนะนำให้ปรึกษากับกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน
Q: นานไหมกว่าจะเห็นผล
A: โดยทั่วไป จะเห็นผลว่าผิวดีขึ้นหลังจากการฉีดครั้งที่สอง และเริ่มเห็นผลภายใน 2 สัปดาห์หลังการฉีด และเนื่องจากเป็นการเข้าไปปรับโครงสร้างผิว ให้แข็งแรงและดีขึ้นระยะยาว จึงแนะนำให้ฉีดซ้ำทุกๆ 3-6 เดือน เพราะมลภาวะ รังสียูวี และความชราวัยตามธรรมชาติของผิว เป็นสิ่งที่ต้องเผชิญอยู่ตลอด ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่การฉีดชาแนลNCTFจะช่วยชะลอกระบวนการเสื่อมของผิวจากสาเหตุเหล่านี้ และปรับปรุงคุณภาพผิวในระยะยาวได้
Q: มีผลข้างเคียงหรือไม่?
A: เนื่องจากประกอบด้วยส่วนผสมที่ผ่านการทดสอบแล้วว่าปลอดภัย จึงไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง จึงเหมาะสมสำหรับการใช้ฟื้นบำรุงสุขภาพผิวที่อ่อนแอ
Q: การดูแลและข้อควรระวังหลังการฉีด?
A: บางครั้งอาจเกิดรอยนูนบวมคล้ายยุงกัดประมาณ 1-2ชั่วโมง หรือรอยแดงช้ำหลังทำได้
หลังจากการฉีดควรงดการถูหรือกระตุ้นบริเวณผิวบริเวณที่ฉีด แนะนำให้หลีกเลี่ยงความร้อนสูง การออกกำลังกายหนักๆ และงดดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 1 สัปดาห์หลังทำ
- หลังฉีดไม่ควรล้างหน้า แต่งหน้า อย่างน้อย 2-3 ชม.
- เพื่อให้เห็นผลการฉีดที่ดี ควรหลีกเลี่ยง อบไอน้ำ ซาวหน้า เป็นเวลา 1 อาทิตย์
- หลังฉีดควรทาครีมกันแดด, ครีมเพิ่มความชุ่มชื้น สม่ำเสมอ
Bubbles DNA : อีกสูตรลับของสาวเกาหลี อัพผิวให้ฉ่ำวาว หน้าเงา เนียน ใส ออร่าจับแบบสาวเกาหลี
เคยสงสัยไหมคะ ว่าทำไมเวลาดูซีรี่ย์เกาหลี ผิวนางเอกเค้าถึงได้ขาวใส เรียบเนียน ฉ่ำวาว หน้าเงากันดีจัง ?? เพราะนอกจากการดูแลผิว ด้วยการทาครีมบำรุงตัวเข้มข้นหลายสเต็ป ที่ขึ้นชื่อของคนเกาหลีแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งสูตรลับ ที่เป็นที่นิยมกันอย่างมากกก ในหมู่หนุ่มๆสาวๆเกาหลีด้วยค่ะ นั่นก็คือ..Bubbles DNA หรือ มุลกวัง นั่นเองค่ะเกาหลีเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อและเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมความงามของเอเชียอยู่แล้ว การคิดค้นพัฒนาสูตรฟื้นบำรุงผิวที่เหมาะกับผิวคนเอเชีย ก็ต้องยกให้เกาหลีเขาจริงๆ
ส่วนประกอบหลัก Bubbles DNA คือ "PN" เข้มข้น ซึ่ง PN ย่อมาจาก Polynucleotides ที่มีโครงสร้างทาง DNA ที่เหมือนกับร่างกายของมนุษย์ สกัดจาก Salmon DNA โดยตัวยามีคุณสมบัติไปกระตุ้นการสร้างและจัดเรียงตัวของคอลลาเจน-อีลาสติน และเซลล์ไฟโบรบลาส ที่มีหน้าที่ผลิตคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ที่ชั้นผิว เพื่อสร้างเนื้อเยื่อมาซ่อมแซมผิว โดยตัว PN ที่ใช้นี้กำลังเป็นที่นิยมสูงที่สุดในเกาหลีเลยค่ะ
PN: Bubbles DNA ดีกว่า Salmon DNA ทั่วไปอย่างไร ?
Salmon DNA ทั่วๆไป คือ PDRN (ย่อมาจาก PolyDeoxyRiboNucleotides) ซึ่งเป็นส่วนประกอบย่อยของ PN
สรุปง่ายๆก็คือ PN เป็นสาย DNA ที่ยาวกว่า จึงสามารถกระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาส ได้ดีขึ้นกว่าถึง 50% โดยในงานวิจัย สามารถทำให้ผิวหนาขึ้น แข็งแรงขึ้น และขาวใสขึ้น ภายในระยะเวลา 2-4 สัปดาห์ PN จึงเหมาะสำหรับ ผิวที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง แผลเป็นหลุมสิว ผิวแห้งโทรม หยาบกร้าน ผิวบางมีริ้วรอย ผิวอ่อนแอแพ้ง่าย
ลักษณะการฉีด PN- Bubbles DNA จะลึกกว่า SalmonDNA ทั่วไป โดยจะฉีด PN ในระดับความลึกเดียวกับการฉีดฟิลเลอร์แบบสกินบูสเตอร์ จึงเห็นผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าการฉีดเมโสและ Salmon DNA ทั่วไปด้วยค่ะ
Bubble DNA ช่วยอะไรบ้าง ?
ที่สุดของการบำรุง ซ่อมแซมผิวหน้าสูตรเข้มข้นที่สุด ลงไปที่ชั้นลึกสุดของผิวหน้า ที่ช่วยได้ทุกปัญหาบนใบหน้า คุณสมบัติพิเศษของ Bubbles DNA คือ ช่วยทุกอย่างที่เกี่ยวกับผิวเลยค่ะ เสริมสร้างคอลลาเจนอีลาสตินใต้ชั้นผิว ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น สิวผดลดลง จุดด่างดำ ฝ้ากระจางลง รูขุมขนกระชับ ริ้วรอยจางลง. บำรุงผิวให้เรียบเนียน ชุ่มชื้น นุ่มลื่น ขาวสว่าง สดใส เงาเด้ง ฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี อีกทั้งยังสามารถช่วยลดการอักเสบของผิว เป็น Antioxidant และมี Whitening effect จึงช่วยทำให้รอยแผลเป็นจางลง ชะลอวัยให้ผิว และผิวขาวใสขึ้นอีกด้วยหลักๆคือ จะซ่อมผิวจากภายใน ได้ผลหลายอย่างมากๆ
ขั้นตอนการทำ PN : Bubble DNA
ทำหัตถการโดยหมอเบนซ์ แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ และได้อบรมการทำ Bubbles DNA จากเกาหลีโดยตรงค่ะ
Q : ถามจริงๆเลย Bubbles DNA เห็นผลไหม?
A. : เห็นผลดีมากค่ะ ชัดเจน รู้สึกได้ด้วยตนเองเลย คุณหมอเบนซ์ ก็ฉีดให้ตนเองเป็นประจำค่ะ
Q : Bubbles DNA เหมาะกับ ใคร ?
A: เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัยเลยค่ะ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิว โทรมสะสม ผิวขาดการบำรุง ผิวออกแดด เจอมลภาวะ แต่งหน้าบ่อย อาการผิวบาง หน้าพังจากแพ้ครีม ครีมสเตียรอยด์ ทำเลเซอร์ อาการหน้าแห้งกร้าน การแต่งหน้าไม่ติดผิว แป้งตกร่อง ๆลๆ
ใช้รักษาผู้ที่หน้าพัง ผิวบาง จากการทำเลเซอร์หรือแพ้ครีม เสริมสร้างคอลลาเจนอีลาสตินใต้ชั้นผิว ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับ ริ้วรอยจางลง บำรุงผิวให้เรียบเนียน ชุ่มชื้น นุ่มลื่น ขาวสว่าง สดใส เงาเด้ง ฉ่ำวาว
Q : ควรทำ Bubbles DNA บ่อยแค่ไหน ?
A: ในผู้ที่ผิวไม่ได้มีปัญหามาก แต่ต้องการเพิ่มความเนียนเด้ง ขาวใส ฉ่ำวาว ให้ผิว สามารถทำเพียง 1-3 ครั้งต่อปีได้ (ทุก 3-6 เดือน)
ส่วนในผู้ที่มีปัญหาแผลเป็นหลุมสิว หรือผิวอ่อนแอ มีปัญหามาก แนะนำครั้งที่ 1-3 ครั้งแรก ให้ทำทุก 1-3 เดือน แล้วเว้นไปอีก 3-6 เดือน ค่อยๆ ห่างออกไป
ถือเป็นการซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ และสร้างผิวใหม่ที่แข็งแรงอ่อนวัย การทำบ่อยๆ ติดต่อกันไม่มีผลเสียและไม่มีผลข้างเคียง แต่กลับมีข้อดี โดยเฉพาะผู้ที่มีรอยหลุมสิวและรูขุมขนกว้าง ถ้าใช้วิธีการนี้แล้วผิวหน้าจะค่อยๆ อิ่มฟู เต่งตึง เรียบเนียน แข็งแรงขึ้น ริ้วรอยต่างๆจะค่อยๆหายไป เพราะผิวหน้าเราจะแข็งแรง หนาฟูขึ้นมาเอง
Q : เจ็บไหม ?
A : ตัวยามีความเข้มข้นมาก จึงอาจรู้สึกถึงตอนเดินยาได้ แต่จะไม่เจ็บมากค่ะ ถ้าทำที่เกาหลีมักจะใช้วิธีดมยาสลบ เพราะส่วนมากมักทำควบคู่กับการทำศัลยกรรมใบหน้า แต่ การดมยาก็จะมีความเสี่ยงที่ตามมาได้เช่นกัน
ที่ Real Clinic จะใช้วิธีมาร์คยาชาบนใบหน้า เพื่อลดความรู้สึกเวลาโดนเข็มจิ้มหน้า แค่นี้ก็เพียงพอที่จะลดความเจ็บได้แล้วค่ะ ปลอดภัยหายห่วงด้วย
Bubbles DNA จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อให้ผิวหน้าเรา เรียบเนียน สว่างใส ฉ่ำวาว เหมือนสาวเกาหลี และยังทำให้ผิวหน้าเราแข็งแรง มีสุขภาพผิวที่ดีด้วยค่ะ
17 พ.ย. 2561
5 ก.ค. 2564
17 ก.ค. 2562