Last updated: 17 ส.ค. 2568 | 52778 จำนวนผู้เข้าชม |
HIFU กำลังเป็นที่นิยม สำหรับคนที่สนใจ จะรู้ว่ามีราคาตั้งแต่ 3000 บาท ถึง 20,000 บาท เอ๊ะ! ทำไมราคาต่างกันมาก เราจะรู้ได้ยังไงว่า ทำที่ไหนดี เลือกจากอะไรดี เครื่องที่เค้าใช้ ใช่ HIFU รึเปล่านะ เป็นเครื่องจีนรึเปล่า?
HIFU คือ High-intensity Focused Ultrasound ยกกระชับ ด้วยคลื่นพลังงานอัลตราซาวด์
ลงลึกถึงชั้น SMAS ที่เป็นชั้นยกดึงหน้า ชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ทำศัลยกรรมดึงหน้าให้ตึงกระชับ โดยพลังงานอัลตราซาวด์นี้จะเข้าไปทำให้ชั้น SMAS แข็งแรงแรงขึ้นและกระตุ้นคอลลาเจน จึงช่วยยกกระชับใบหน้าให้ผิวเฟิร์มเด้งขึ้น กรอบหน้าชัดขึ้น
แก้ปัญหา ใบหน้าหย่อนคล้อย ผิวหนังหย่อนคล้อย ช่วยยกกระชับใบหน้า แก้ม ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก กรอบหน้า และกระเปาะข้างมุมปากได้ดี รวมถึงผิวใต้ตาที่หย่อนคล้อยและหนังตาหย่อน หางคิ้วตก ก็ช่วยแก้ปัญหาได้เช่นกัน
ข้อดี HIFU ไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่โดนเข็ม ไม่มีแผลจากเข็มหรือจากมีดผ่าตัด สามารถแต่งหน้าทาครีมหลังทำได้ทันที
เหมาะสำหรับ ทุกเพศ ทุกวัย ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย ผิวหน้าไม่กระชับ กรอบหน้าไม่ชัด มีเหนียง โดย HIFU สามารถช่วยได้ทั้ง ใบหน้า เหนียง ลำคอ รวมถึงที่เรือนร่างด้วยค่ะ
ผลลัพธ์ที่ได้ หลังทำจะเห็นผลเลยค่ะ แล้วจะค่อยๆเห็นผลดีขึ้นเรื่อยๆ ชัดเจนที่สุด 1-2 เดือนหลังทำ เมื่อคอลลาเจนสร้างตัวเต็มที่
อยู่ได้นาน 6-8 เดือน ถ้าทำซ้ำ 1-2 ครั้งจะอยู่ได้นานเป็นปี
7 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ที่ดี มีอะไรบ้าง พร้อมการสนับสนุนจากงานวิจัยที่รองรับค่ะ
การได้รับผลลัพธ์ที่ดีจากเครื่องยกกระชับขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งไม่ได้มีแค่เครื่องมือหรือเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับการดูแลและปัจจัยหลายๆ อย่างในกระบวนการ ทั้งจากตัวเครื่องเอง และการปรับให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน
1. ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์
การใช้เครื่องยกกระชับไม่ใช่แค่การเปิดเครื่องแล้วยิงพลังงานไปตามจุด แต่ต้องมีการปรับค่าพลังงานและเลือกหัวที่เหมาะสมกับแต่ละชั้นผิวอย่างแม่นยำ
งานวิจัย (Lee, Y., et al., 2021) ระบุว่า แพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละปัญหาของผิว เช่น
การปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้า
การเลือกหัวที่เหมาะสมในการยิงพลังงาน (Deep, Superficial, etc.)
การเลือกหัวที่เหมาะสมกับการยิงพลังงานสามารถทำให้ การกระตุ้นคอลลาเจน และ ผลลัพธ์ที่ได้ ดีขึ้นอย่างมากค่ะ
สรุป: แพทย์ที่มีความชำนาญจะสามารถออกแบบแผนการรักษาได้เหมาะสมที่สุดกับแต่ละบุคคล
2. การปรับค่าพลังงานให้เหมาะสม
พลังงานที่ใช้ในการยิงต้องสัมพันธ์กับระดับความลึกของชั้นผิว เช่น ชั้น SMAS, ชั้น Dermis, หรือ Hypodermis ซึ่งการปรับพลังงานผิดระดับอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามคาดหวัง
งานวิจัย (Cho, J. et al., 2020) ระบุว่า การยิงพลังงานแบบหลายความลึก เช่นที่พบใน Ultraformer MPT หรือ MFU จะช่วยเพิ่มการกระตุ้นคอลลาเจนและเพิ่มความหนาแน่นของผิว
สรุป: ต้องปรับค่าพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละชั้นผิว เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ความเหมาะสมของเครื่องมือ
เครื่องมือแต่ละชนิดมีเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ความแม่นยำของการยิงพลังงาน และ คุณภาพของเครื่อง ล้วนมีผลต่อผลลัพธ์
งานวิจัย (Kim, Y. et al., 2020) พบว่า เครื่องที่มีการควบคุมพลังงานและความลึกได้อย่างแม่นยำ เช่น Ulthera, Ultraformer MPT มีความแม่นยำสูงกว่าการใช้อุปกรณ์ทั่วไป
การควบคุมความลึกของพลังงานจะทำให้การกระตุ้นที่เกิดขึ้นตรงจุดและมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิว
สรุป: เครื่องที่มีระบบควบคุมพลังงานและความลึกอย่างแม่นยำจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
4. จำนวนครั้งและระยะห่างของการทำทรีตเมนต์
จำนวนครั้งที่ทำและการเว้นระยะห่างระหว่างการทำแต่ละครั้งก็มีความสำคัญต่อการกระตุ้นคอลลาเจนให้มีผลลัพธ์ที่ยาวนานและเห็นผลอย่างชัดเจน
งานวิจัย (Gao, S., et al., 2018) พบว่า การทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลาที่เหมาะสมช่วยให้เกิด ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ในการยกกระชับผิวและการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ๆ
โดยการทำซ้ำในช่วง 1 เดือน (ขึ้นกับประเภทเครื่อง) ทำให้สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่แข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น
สรุป: ควรทำทรีตเมนต์ตามคำแนะนำของแพทย์และรักษาระยะห่างเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
5. การดูแลหลังการทำทรีตเมนต์ ก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่น
หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดหลังทำทรีตเมนต์
หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่ระคายเคืองในช่วง 1-2 วันแรก
ใช้ครีมบำรุงผิวที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและให้ความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ
งานวิจัย (Jung, J., et al., 2021) พบว่าการดูแลหลังทรีตเมนต์จะช่วยให้การสร้างคอลลาเจนเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นและผิวฟื้นฟูได้ดีกว่า
สรุป: การดูแลผิวหลังทำทรีตเมนต์ช่วยให้ผลลัพธ์ยาวนานและดีขึ้น
6. สภาพผิวของแต่ละคนมีสภาพที่แตกต่างกัน เช่น ผิวหย่อนคล้อย, ผิวมีริ้วรอยลึก, ผิวแห้งกร้านหรือมีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ
งานวิจัย (Jung, S., et al., 2020) ได้พิสูจน์ว่า สภาพผิวของคนไข้ มีผลต่อการตอบสนองต่อการกระตุ้นคอลลาเจนและผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้เทคโนโลยีการยกกระชับ ผิวที่มีความชุ่มชื้นดีและไม่หย่อนคล้อยมากเกินไปมักจะตอบสนองต่อการรักษาได้ดีและเห็นผลไวกว่า
สรุป: สภาพผิวที่ดีจะช่วยให้การกระตุ้นคอลลาเจนเกิดขึ้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
7. การเลือกประเภทเครื่องให้เหมาะสมกับปัญหาผิวของแต่ละคนก็มีผลต่อผลลัพธ์ที่ได้ ตัวอย่างเช่น
New MFU Synergy เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบเจ็บ มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย-ปานกลาง และอยากให้คุณภาพผิวดีขึ้นด้วยในขั้นตอนเดียว
Thermage FLX เหมาะสำหรับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยและไม่ต้องการผลลัพธ์แบบรุนแรง
Ulthera เหมาะกับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยแบบชัดเจนที่ต้องการผลลัพธ์ที่แน่นอน
Morpheus8 เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยและต้องการการฟื้นฟูอย่างลึก
สรุป: เครื่องที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของแต่ละคนจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุปการศึกษาวิจัย:
จากการวิจัยหลายชิ้นเกี่ยวกับ เครื่องยกกระชับ พบว่า การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับสภาพผิว, การปรับค่าพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละชั้นผิว, ประสบการณ์ของแพทย์, การทำตามคำแนะนำการดูแลหลังการทำทรีตเมนต์, และ การทำทรีตเมนต์อย่างต่อเนื่อง ล้วนมีผลโดยตรงต่อผลลัพธ์ของการยกกระชับที่ได้
การวิจัยที่สนับสนุน (Lee, Y., et al., 2021; Cho, J., et al., 2020; Jung, S., et al., 2020) ชี้ให้เห็นว่า การตอบสนองของผิว ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึง สุขภาพผิว, การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม, และ การดูแลที่ถูกต้อง
____________________________
Real Clinic ใช้เครื่อง New MFU Synergy พิเศษอย่างไร ?
1. ตัวเครื่อง มาตรฐาน ปลอดภัย ผ่าน อย ถุกต้อง
2. แทบไม่เจ็บ ไม่ต้องทายาชาก่อนทำ เพียงทำความสะอาดผิวหน้า ทาเจล และเริ่มทำได้เลยค่ะ
หัว FL ( Focused Linear MFU )
หัว SD ( Synergy Dotting MFU + RF )
เรียกได้ว่าเป็นการ “ยกทั้งหน้า เสริมทั้งชั้น ฟื้นทั้งผิว” ในการทำครั้งเดียว เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ครบ โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือไม่มีเวลาพักฟื้น
: Single Shot หัวเรียวเล็ก เข้าถึงได้ทุกซอก ทุกมุม บนใบหน้าได้อย่างละเอียด และยกกระชับได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะ บริเวณรอบดวงตา หน้าผาก หางตา ยกคิ้ว ร่องแก้ม
แม้ว่าพลังงาน HIFU และ RF จะมีจุดเด่นเฉพาะของแต่ละเทคโนโลยี แต่เมื่อใช้งานร่วมกัน ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ได้เป็นเพียงผลรวม (Additive Effect) แต่กลับแสดงออกเป็นผลลัพธ์ที่ เสริมกัน (Synergistic Effect) อย่างชัดเจน
5. ผลลัพธ์ที่เห็นผลชัดมากขึ้น เมื่อเทียบกับ MFU เดี่ยวๆ
6. ทำโดยแพทย์ทุกเคส
7. Real Clinic ไม่มีพนักงานขายคอยยัดเยียดคอร์ส
8. คลินิกได้รับใบอนุญาตถูกต้องชัดเจน
____________________________
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ที่ดี มีอะไรบ้าง พร้อมการสนับสนุนจากงานวิจัยที่รองรับค่ะ
การได้รับผลลัพธ์ที่ดีจากเครื่องยกกระชับขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งไม่ได้มีแค่เครื่องมือหรือเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับการดูแลและปัจจัยหลายๆ อย่างในกระบวนการ ทั้งจากตัวเครื่องเอง และการปรับให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน
1. ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์
การใช้เครื่องยกกระชับไม่ใช่แค่การเปิดเครื่องแล้วยิงพลังงานไปตามจุด แต่ต้องมีการปรับค่าพลังงานและเลือกหัวที่เหมาะสมกับแต่ละชั้นผิวอย่างแม่นยำ
งานวิจัย (Lee, Y., et al., 2021) ระบุว่า แพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละปัญหาของผิว เช่น
การปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้า
การเลือกหัวที่เหมาะสมในการยิงพลังงาน (Deep, Superficial, etc.)
การเลือกหัวที่เหมาะสมกับการยิงพลังงานสามารถทำให้ การกระตุ้นคอลลาเจน และ ผลลัพธ์ที่ได้ ดีขึ้นอย่างมากค่ะ
สรุป: แพทย์ที่มีความชำนาญจะสามารถออกแบบแผนการรักษาได้เหมาะสมที่สุดกับแต่ละบุคคล
2. การปรับค่าพลังงานให้เหมาะสม
พลังงานที่ใช้ในการยิงต้องสัมพันธ์กับระดับความลึกของชั้นผิว เช่น ชั้น SMAS, ชั้น Dermis, หรือ Hypodermis ซึ่งการปรับพลังงานผิดระดับอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามคาดหวัง
งานวิจัย (Cho, J. et al., 2020) ระบุว่า การยิงพลังงานแบบหลายความลึก เช่นที่พบใน Ultraformer MPT หรือ MFU จะช่วยเพิ่มการกระตุ้นคอลลาเจนและเพิ่มความหนาแน่นของผิว
สรุป: ต้องปรับค่าพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละชั้นผิว เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ความเหมาะสมของเครื่องมือ
เครื่องมือแต่ละชนิดมีเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ความแม่นยำของการยิงพลังงาน และ คุณภาพของเครื่อง ล้วนมีผลต่อผลลัพธ์
งานวิจัย (Kim, Y. et al., 2020) พบว่า เครื่องที่มีการควบคุมพลังงานและความลึกได้อย่างแม่นยำ เช่น Ulthera, Ultraformer MPT มีความแม่นยำสูงกว่าการใช้อุปกรณ์ทั่วไป
การควบคุมความลึกของพลังงานจะทำให้การกระตุ้นที่เกิดขึ้นตรงจุดและมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิว
สรุป: เครื่องที่มีระบบควบคุมพลังงานและความลึกอย่างแม่นยำจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
4. จำนวนครั้งและระยะห่างของการทำทรีตเมนต์
จำนวนครั้งที่ทำและการเว้นระยะห่างระหว่างการทำแต่ละครั้งก็มีความสำคัญต่อการกระตุ้นคอลลาเจนให้มีผลลัพธ์ที่ยาวนานและเห็นผลอย่างชัดเจน
งานวิจัย (Gao, S., et al., 2018) พบว่า การทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลาที่เหมาะสมช่วยให้เกิด ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ในการยกกระชับผิวและการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ๆ
โดยการทำซ้ำในช่วง 1 เดือน (ขึ้นกับประเภทเครื่อง) ทำให้สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่แข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น
สรุป: ควรทำทรีตเมนต์ตามคำแนะนำของแพทย์และรักษาระยะห่างเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
5. การดูแลหลังการทำทรีตเมนต์ ก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่น
หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดหลังทำทรีตเมนต์
หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่ระคายเคืองในช่วง 1-2 วันแรก
ใช้ครีมบำรุงผิวที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและให้ความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ
งานวิจัย (Jung, J., et al., 2021) พบว่าการดูแลหลังทรีตเมนต์จะช่วยให้การสร้างคอลลาเจนเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นและผิวฟื้นฟูได้ดีกว่า
สรุป: การดูแลผิวหลังทำทรีตเมนต์ช่วยให้ผลลัพธ์ยาวนานและดีขึ้น
6. สภาพผิวของแต่ละคนมีสภาพที่แตกต่างกัน เช่น ผิวหย่อนคล้อย, ผิวมีริ้วรอยลึก, ผิวแห้งกร้านหรือมีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ
งานวิจัย (Jung, S., et al., 2020) ได้พิสูจน์ว่า สภาพผิวของคนไข้ มีผลต่อการตอบสนองต่อการกระตุ้นคอลลาเจนและผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้เทคโนโลยีการยกกระชับ ผิวที่มีความชุ่มชื้นดีและไม่หย่อนคล้อยมากเกินไปมักจะตอบสนองต่อการรักษาได้ดีและเห็นผลไวกว่า
สรุป: สภาพผิวที่ดีจะช่วยให้การกระตุ้นคอลลาเจนเกิดขึ้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
7. การเลือกประเภทเครื่องให้เหมาะสมกับปัญหาผิวของแต่ละคนก็มีผลต่อผลลัพธ์ที่ได้ ตัวอย่างเช่น
New MFU Synergy เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบเจ็บ มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย-ปานกลาง และอยากให้คุณภาพผิวดีขึ้นด้วยในขั้นตอนเดียว
Thermage FLX เหมาะสำหรับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยและไม่ต้องการผลลัพธ์แบบรุนแรง
Ulthera เหมาะกับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยแบบชัดเจนที่ต้องการผลลัพธ์ที่แน่นอน
Morpheus8 เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยและต้องการการฟื้นฟูอย่างลึก
สรุป: เครื่องที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของแต่ละคนจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุปการศึกษาวิจัย:
จากการวิจัยหลายชิ้นเกี่ยวกับ เครื่องยกกระชับ พบว่า การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับสภาพผิว, การปรับค่าพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละชั้นผิว, ประสบการณ์ของแพทย์, การทำตามคำแนะนำการดูแลหลังการทำทรีตเมนต์, และ การทำทรีตเมนต์อย่างต่อเนื่อง ล้วนมีผลโดยตรงต่อผลลัพธ์ของการยกกระชับที่ได้
การวิจัยที่สนับสนุน (Lee, Y., et al., 2021; Cho, J., et al., 2020; Jung, S., et al., 2020) ชี้ให้เห็นว่า การตอบสนองของผิว ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึง สุขภาพผิว, การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม, และ การดูแลที่ถูกต้อง