ในปัจจุบันเกาหลีใต้ ถือเป็น 1 ในผู้นำนวัตกรรมความงามของโลก รวมไปถึงสไตล์การแต่งหน้าและเทรนด์ความงามด้วย คนไทยเราก็ได้รับอิทธิพลจากเกาหลีมากเช่นกัน ด้วยความที่พื้นฐานผิวเป็นเอเชียเหมือนกัน ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว รวมไปถึงนวัตกรรมการแพทย์จากเกาหลี จึงมักตอบโจทย์และให้ผลลัพธ์ที่ดีชัดเจนเหมาะกับผิวของคนไทยมาก 
 
เทรนด์ความงามแบบเกาหลีที่เน้นความเป็นธรรมชาติ แต่งหน้าให้ดูเหมือนไม่ได้แต่ง สิ่งสำคัญที่หนุ่มสาวเกาหลีแทบทุกคนให้ความสำคัญ ก็คือ "งานผิว" นั่นเองค่ะ
และด้วยความที่นวัตกรรมการแพทย์ด้านงานผิว ของเกาหลีในตอนนี้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คุณหมอเบนซ์ก็ไม่รอช้า ที่จะไปศึกษาอบรมอย่างรู้ลึก รู้จริง กับอาจารย์แพทย์ที่เกาหลีโดยตรง เรียกได้ว่าศึกษากับเจ้าของสูตรต้นตำรับเลยจริงๆ เพื่อนำนวัตกรรมการแพทย์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เห็นผลชัดเจน และที่สำคัญต้องปลอดภัยในระยะยาว มาตอบโจทย์ให้ทุกท่านที่ต้องการ’งานผิวแบบเกาหลี’ ได้ที่ Real clinic แล้วค่ะ
 
exoxome exosome korea skin stemcells stem cells สเตมเซลล์ chanel ชาแนล เรจูรัน rejuran ฉีดชาแนล

1. EXOSOME
สารบัญ

2. BUBBLES DNA 
สารบัญ

3. CHANEL NTCF
 สารบัญ

4. REJURAN
สารบัญ

5.มุลกวัง
สารบัญ

image
ไม่ต้องเสิยเงินบินไปไกลถึงเกาหลี
  • ตัวยาส่วนผสมเดียวกันกับที่เกาหลี
  • ให้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนกัน
  • ในราคาที่ย่อมเยาว์กว่ามาก
image
โดยคุณหมอเบนซ์ Real Clinic
  • คุณหมออบรมโดยตรงจากเกาหลี
  • จึงมั่นใจได้เลยว่า ผลลัพธ์ดีเหมือนกันแน่นอนค่ะ
หมอเบนซ์
ควบคุมดูแลโดยแพทย์ด้านผิวหนังและความงาม
  • คุณหมอเบนซ์ พญ.รมิตา สุภาสัย พบ.วทม.(ตจวิทยา)
  • MD, Master’s Degree (MSc.) in Dermatology
  • แพทย์ด้านผิวหนังและความงาม
  • แพทย์ต่อยอดประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาตจวิทยา
  • แพทย์ผู้ชำนาญด้านการปรับรูปหน้า ด้วยเทคนิคระดับสูง ประสบการณ์กว่า 10 ปี
image
คุณหมอเชี่ยวชาญในการปรับรูปหน้า โดยเฉพาะ
  • คุณหมอเชี่ยวชาญในการปรับรูปหน้า โดยเฉพาะ
  • คุณหมอ ประสบการณ์สูงชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์มากค่ะ
  • ออกแบบรูปหน้าเฉพาะรายบุคคล เทคนิคเฉพาะตัว ฉีดเนียนสวยเน้นเป็นธรรมชาติที่สุด
  • คุณหมอใจเย็น ละเอียด ประณีต ในการทำหัตถการ
  • คุณหมอมือเบามาก ทำให้ไม่บวม ไม่เขียว
  • คุณหมอใช้เข็มทู่ตลอด ปลอดภัยมากค่ะ 

image
ไม่มีเซลล์ " ไม่ต้องคอยกังวลจะโดนยัดเยียดคอร์ส "
  • เรียลคลินิก เน้นให้บริการอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมา ไม่ยัดเยียดในสิ่งที่ไม่จำเป็นกับคนไข้
  • เราเล็งเห็นถึงปัญหา ที่เวลาเข้ามาที่คลินิกความงามส่วนใหญ่ คนไข้มักโดนการยัดเยียดขายคอร์สที่ไม่จำเป็น
  • คุณหมอเบนซ์และทีมงานทุกคน จึงสร้างสรรค์เรียลคลินิก ที่ให้บริการด้วยใจและการรักษา 'ตามหลักการที่ถูกต้อง' โดย "ไม่ต้องยัดเยียดขายคอร์ส"
image
คุณหมอให้คำปรึกษาด้วยตนเองทุกเคส 
  • เพื่อให้มั่นใจว่าปัญหาที่คนไข้กังวลนั้น จะได้รับการแก้ไขด้วยวิธีที่เหมาะสมที่สุด
  • คนไข้มีส่วนร่วม ในการตัดสินใจเลือกรับการรักษา  ด้วยโปรแกรมการรักษาที่คุ้มค่าที่สุด พร้อมคำแนะนำอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมา
  • คุณหมอดูแลควบคุมเองจึงใช้แต่ "ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด" 
  • พนักงานพร้อมให้บริการด้วยใจรัก ยินดีต้อนรับทุกท่านด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส

Exosome นวัตกรรมฟื้นฟูผิวใหม่ คือ สารขนาดเล็กมาก ที่ปล่อยออกมาจาก Stem Cell เป็นลักษณะวงกลมขนาดเพียง 30-100 nm ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าทั่วไปถึง 1,000 เท่า ใน Exosome มีสารชีวโมเลกุล 1,000 ชนิด เช่น เช่น Growth factors, Cytokines, mRNA, Biological compounds และสารสื่อประสาทสำคัญอีกหลายชนิดที่มีมากกว่า PRP เป็น 1,000 เท่า

ปกติแล้วในการทำงานของStem Cellจะมีการปล่อยสารที่ชื่อว่า "Exosome (เอ็กซ์โซโซม)" ออกมา Exosome เกิดจากStem Cellนี่เอง ซึ่งจะตรงเข้าไปฟื้นฟูเซลล์โดยรอบให้กลับมาอ่อนเยาว์สดใสอีกครั้ง แต่ว่าการใช้Stem Cellนั้นก็มีข้อจำกัดในเรื่องของปริมาณเอกซ์โซโซมที่ถูกปล่อยออกมา ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าStem Cellexosomeออกมาเท่าไร จึงได้เกิดการสกัด "Exosome" แยกออกมาจากStem Cellด้วยเทคโนโลยี mRNA

ทำให้ได้เอกซ์โซโซมเพียว ๆ และสามารถกำหนดปริมาณการใช้ฟื้นฟูผิวในจุดต่าง ๆได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย โดย Exosome เป็นส่วน์ที่มีอนุภาคนาโนขนาดเล็ก จึงทำให้สามารถเข้าไปซ่อมแซม และฟื้นฟูบริเวณหนังศีรษะที่เสื่อมสภาพได้ลึกถึงระดับการแสดงออกของยีน (Epigenetic) รวมทั้งยังช่วยต้านและยับยั้งกลไกการอักเสบ ภาวะเครียดของเซลล์ และชะลอความเสื่อมต่างๆ ของปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะได้ด้วย

จากงานวิจัย Exosome ช่วยในเรื่อง
1. Skin Rejuvenation ฟื้นฟูสภาพผิวให้อ่อนเยาว์ กระชับรูขุมขน
2. Acne Scar Revision รักษาแผลเป็นหลุมสิว ลดสิว ลดรอยดำรอยแดงสิว
3. Chronic Inflammation / Hypersensitivity ลดการอักเสบของผิว ลดอาการผื่นแพ้
4. Wound healing ช่วยในการสมานแผล ลด downtime ลดรอยแผลเป็น
5. Pigmentation Regulation ลดเม็ดสี ช่วยรักษาฝ้า กระ รอยดำ
6. Atopic Dermatitis รักษาอาการคันผิวหนังอักเสบ ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
7. Anti-aging ช่วยชะลอวัยผิว กระชับผิว ลดเลือนริ้วรอย
8. เพิ่มการฟื้นฟูเส้นใยไฟโบรบลาสต์ 80%
9. เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว 3 เท่า
10. เพิ่มคอลลาเจน 7 เท่า


Exosome Real Skin Quality คืออะไร พิเศษกว่าอย่างไร ?
เป็นโปรแกรมงานผิว เพื่อฟื้นฟูผิวให้ดีขึ้นในทุกด้าน สูตรเฉพาะของที่ Real Clinic เท่านั้น โดยส่วนประกอบหลักในสูตรยาคือ Exosome ( มีเพียงแบรนด์เดียวเท่านั้นที่ ผ่าน อย. ไทย )เข้มข้นคุณภาพสูงสุดที่ได้มาจาก Human Adipose Tissue Stem Cell แหล่งStem Cell ที่ขึ้นชื่อเรื่องการฟื้นฟูผิวหนังที่ดีที่สุด มีงานวิจัยระดับโลกรองรับถึงความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญ

ตัวยาแท้ยกขวดไม่เจือจาง 5 cc  มี อย.ไทย ฉีดให้ทั้งขวด เข้มข้นไม่เจือจาง ให้เต็มโดส ทำให้ทั่วหน้า รวมลำคอด้วย ยกขวดให้กล่องขวดกลับบ้าน 

ทำหัตถการโดยแพทย์ด้านผิวหนังอบรมจากเกาหลีโดยตรง
คุณหมอเบนซ์ได้รับการฝึกอบรมการทำ EXOSOME จากอาจารย์แพทย์ด้าน Skin Booster ที่เกาหลีโดยตรง

ทั้งยังมีการใช้เครื่องมือชนิดพิเศษ ช่วยเปิดผิวนำตัวยาเข้าสู่ผิวหนังอย่างล้ำลึกทั่วถึงทั้งใบหน้าและลำคอ (ไม่ใช่แค่ฉีดมือแบบเมโสเธอราพีทั่วไป) วิธีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Exosome อย่างสูงสุด จึงเป็นเทคนิคเฉพาะส่วนตัวที่ยังไม่มีที่ไหนทำในประเทศไทยค่ะ

 

 

 
**มีการศึกษาทางคลินิกที่แสดงให้เห็น ว่าการดูดซึมเอ็กโซโซมเข้าไปในไฟโบรบลาสต์ จะช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจนได้ถึง 6 เท่า เพิ่มอีลาสตินความยืดหยุ่นได้สูงขึ้น 3 เท่า และการสร้างผิวใหม่ได้ถึง 80%
 
ขั้นตอนการทำ Exosome Skin Quality สูตรเฉพาะที่ Real clinic
  • ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยเวชภัณฑ์สูตรอ่อนโยน
  • ทายาชาทั่วใบหน้าและลำคอ 30-60 นาที
  • ช็ดยาชาออก และทำความสะอาดผิว
  • แพทย์ทำการฆ่าเชื้อทั่วบริเวณผิวหน้าและลำคอ
  • ทำการเน้นเฉพาะจุดที่กังวลเป็นพิเศษด้วยเทคนิค microdroplet mesotherapy
  • นำตัวยาเข้าสู่ผิวหนังอย่างทั่วถึงด้วย MTS Needling
  • มากส์ฆ่าเชื้อและปลอบประโลมผิว Medical Sterile mask
 

ส่วนประกอบสำคัญใน Exosome Real Skin Quality 
Exosome เข้มข้น สารสำคัญที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิว (Skin regeneration) exosome อนุภาคขนาดเล็ก ประมาณ 5,000 ล้านparticles และactive ingredients ต่างๆ คือ growth factors 5 ชนิด, peptides 6 ชนิด, amino acids 19 ชนิด, coenzymes 4 ชนิด, vitamins และ minerals สารออกฤทธิ์สำคัญเหล่านี้จะเพิ่มประสิทธิภาพการจับกับตัวรับและส่งสัญญาณไปยังผิว

  • Growth Factor
    โปรตีนที่ช่วยในการสร้างใหม่ และยังช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ สร้างผิวใหม่ที่อ่อนวัยและแข็งแรง growth factors ชนิดที่เป็นหลักสำคัญ คือ EGF (epidermal growth factor) มีหน้าที่กระตุ้นการสร้าง collagen, elastin, hyaluronic acid ในชั้นผิว ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของผิวที่ยืดหยุ่น เนียนเด้ง (มี skin elasticity) และดีทอกซ์อนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดการชราของผิว และยังมี fibroblast growth factors ที่กระตุ้น SOD ซึ่งเป็น(antioxidant)สารต้านอนุมูลอิสระในเซลล์ด้วย 

** การผลิตสาร SOD ตามธรรมชาติในเซลล์นี้จะลดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่อายุประมาณ 35 ปีเป็นต้นไป และจะลดลงเรื่อยๆตามอายุที่มากขึ้น เมื่อการทำงานของเซลล์ลดลงเนื่องจากออกซิเจนที่ใช้งานอยู่ปรากฏการณ์แห่งวัย aging process เช่นจุดด่างดำ และริ้วรอยก็จะเริ่มปรากฏมากยิ่งขึ้น

  • Peptide ที่ส่งเสริมการเพิ่มจำนวนและการทำงานของผิวหนัง โปรตีนที่มีกรดอะมิโน 50 หรือมากกว่ารวมกันเรียกว่าโปรตีนในขณะที่โปรตีนที่มีกรดอะมิโนตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไปและน้อยกว่า 50 เรียกว่าเปปไทด์ เปปไทด์มีผลในการส่งเสริมการเพิ่มจำนวนและการทำงานของผิวหนัง นอกจากนี้กลูตาไธโอนซึ่งเป็นเปปไทด์ชนิดหนึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ  ที่ยับยั้งออกซิเจนที่ออกฤทธิ์ซึ่งทำให้เซลล์แก่ตัวลงและทำให้เกิดจุดและริ้วรอย

  • Amino acids ที่สนับสนุนการเผาผลาญของผิวหนัง เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับผิวหนัง ในขณะเดียวกันก็เป็นวัตถุดิบสำหรับเอนไซม์ที่จำเป็นในการแบ่งตัวของ จึงช่วยส่งเสริมการเมตาบอลิซึมในการสร้างใหม่และป้องกันการแก่ชราของผิวหนัง

  • Coenzymeที่กระตุ้นการทำงานของเซลล์มนุษย์ประกอบด้วยประมาณ 60 ล้านล้านตัว และเป็นไมโทคอนเดรียที่ผลิตพลังงานในส่วนเหล่านั้น โคเอนไซม์เป็นสารที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในไมโตคอนเดรีย และช่วยในการผลิตพลังงานในเซลล์์และมีหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเซลล์์ นอกจากนี้ยัง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้เซลล์์แก่ตัวลงที่ทำให้เกิดจุดด่างดำและริ้วรอย
  • Hyaluronic acid Solution สารละลายไฮยาลูโรนิกแอซิดที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูง ซึ่งมีคุณสมบัติกักเก็บน้ำสูง ร่วมกับมี growth factors อีก 4 ชนิด, amino acids อีก 13 ชนิด และแร่ธาตุอื่นๆ ทั้งหมดนี้ช่วยส่งเสริมการสร้างผิวใหม่ในกระบวนการ proliferation and differentiation เสริมการทำงานของ เกราะป้องกันผิว (skin barrier) ด้วยพลังความชุ่มชื้นสูง

หลักการทำงานของ Exosome 
  • *Cytokine และ Growth factor เป็นกลุ่มสารโปรตีนหลายชนิดที่Stem Cellสร้างขึ้น มีหน้าที่ส่งสัญญาณระหว่างกัน เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ทำงานอย่างเหมาะสม ในส่วนของ Enriched cytokine คือขั้นตอนการคัดแยกกลุ่ม ที่สร้างจากสร้างจากStem Cellจนได้คุณภาพและปริมาณที่สมบูรณ์ที่สุด

  • microRNA คือ สาย RNA ขนาดสั้น ช่วยปรับระดับการทำงานของยีนภายในเซลล์ให้เป็นปกติ สามารถทำงานของเซลล์ต้นกำเนิด กับอื่นๆ บริเวณใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี มีหน้าที่ควบคุมระบบเปิดปิดการทำงานของยีน โดยกระตุ้นยีนที่ดีเพื่อสร้างโปรตีน และยับยั้งยีนไม่ดีที่ไม่ควรทำงาน เพื่อให้เซลล์อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโต มีประสิทธิภาพในการ ซ่อมแซม ฟื้นฟู ลดการอักเสบ และชะลอวัยระดับลึกถึงภายในเซลล์

  • *Biological compounds คือ สารชีวโมเลกุลหลากหลายชนิด ที่Stem Cellสร้างขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์กับเซลล์ เช่น กรดไขมัน, กรดอะมิโน, โปรตีน Exosomes, Enriched cytokine, Growth factor, miRNA ทำหน้าที่รักษาสมดุลภายในเซลล์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับสมดุลเมื่อเซลล์และเนื้อเยื่อมีความผิดปกติเพื่อกลับสู่ดุลยภาพใหม่ พร้อมต่อการเจริญเติบโตและทำหน้าที่ที่สมบูรณ์ต่อไป

REAL Exosome Skin Quality เหมาะสำหรับใคร

  • ผู้ที่กลัวเจ็บ กลัวเข็ม กลัวการบวมช้ำบวม ไม่สามารถพักหน้าได้
  • ผู้ที่กลัวการใช้สารเคมี กลัวการฉีดสารสังเคราะห์สิ่งแปลกปลอมใดๆเข้าร่างกาย
  • ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว รูขุมขนกว้าง
  • ผู้ที่กังวลเรื่องริ้วรอย แต่ไม่กล้าฉีดฟิลเลอร์
  • ผู้ที่ต้องการแก้ไขความหมองคล้ำและสีผิวไม่สม่ำเสมอ ฝ้า กระ จุดด่างดำ
  • ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวที่เป็นสิวง่าย สิวเห่อ รอยดำรอยแดงสิว
  • ผู้ที่ต้องการบรรเทาอาการภูมิแพ้ผิวหนัง
  • ผู้ที่ผิวแห้ง ผิวบาง หลังจากทำเลเซอร์
  • ผู้ที่ผิวหลวม หย่อนคล้อย ขาดความเต่งตึง ขาดความยืดหยุ่น
  • ผู้ที่ผิวแห้งขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น ทาครีมยังไงก็ไม่ดีขึ้น

ควรทำโปรแกรม REAL Exosome Skin Quality บ่อยแค่ไหน
โดยทั่วไปการทำหัตถการแพทย์เพียงครั้งเดียวก็จะเกิดกระบวนการฟื้นฟูผิวสร้างคอลลาเจนได้ยาวนานกว่า 6 เดือน แต่ด้วยสภาพพื้นฐานผิวของแต่ละบุคคลที่ไม่แตกต่างกัน การคงผลลัพธ์คุณภาพผิวที่ยาวนานและเพื่อประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น แนะนำทำการรักษาต่อเนื่องทุก 1 เดือนในช่วง 3 ครั้งแรก จากนั้นทำต่อเนื่องทุก 6-12 เดือน เพื่อกระตุ้นการสร้างการสร้างคอลลาเจนอีลาสติน และผิวใหม่อย่างต่อเนื่อง ให้พื้นฐานผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

อาการปวดและผลข้างเคียงในการทำ REAL Exosome Skin Quality
แทบจะไม่มีอาการปวดเลยในขณะทำ เนื่องจากมีการทาครีมยาชาก่อนทำหัตถการ และตัวยาไม่แสบไม่เบิร์นผิว หลังทำจะมีรอยแดง และตุ่มคล้ายยุงกัดบางจุด วันรุ่งขึ้นสามารถแต่งหน้าทาแป้งไปปกติ *ในบางรายอาจมีอาการรแดงคันในบริเวณที่ทำได้ เป็นอาการปกติแนะนำให้ใช้ครีมมอยเจอร์ไรเซอร์และกันแดดอย่างต่อเนื่อง และงดเว้นครีมไวท์เทนนิ่งไปก่อน

ข้อควรระวังหลังการรักษา REAL Exosome Skin Quality

  • งดการแต่งหน้าล้างหน้าหลังการรักษาเป็นเวลา 6 ชั่วโมง
  • งดการใช้เครื่องสำอางพื้นฐานที่มีสารกันเสียและแอลกอฮอล์ในวันที่ทำการรักษา
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักในวันที่ทำการรักษา
  • หลีกเลี่ยงการระคายเคืองบริเวณที่ทำการรักษาในวันนั้นและระวังอย่าถู
  • หลีกเลี่ยงการอบซาวน่าและออนเซ็นประมาณหนึ่งสัปดาห์
  • งดสิ่งกระตุ้นให้เกิดการบวมแดงที่หน้า เช่น แอลกอฮอล์ 2-3 วัน
  • หลังทำการรักษา หากใบหน้าแสบแดงคัน ให้ทาครีมมอยเจอไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้น ที่ไม่มีสารกันเสียหรือแอลกอฮอล์


ผู้ที่ไม่ควรทำ REAL Exosome Skin Quality

  • ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ผู้ที่แพ้โลหะ
  • ผู้ที่เป็นโรคติดเชื้อที่ผิวหนัง
  • ผู้ที่เป็นโรคเริมกำเริบ
  • ผู้ที่เป็นโรคเลือดออกหยุดยาก
  • นอกจากนี้หากคุณแพ้ยาชาโปรดปรึกษาแพทย์ในขณะให้คำปรึกษา / ตรวจ

Q : Exosome คืออะไรกันแน่?
A : เอ็กโซโซมเป็นสารอนุภาคเล็กขนาดนาโน ที่เซลล์หลั่งออกมาภายนอกผนังเป็นตัวหลักเพื่อการส่งสัญญาณแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างเซลล์ มีบทบาทในการส่งสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่เหมาะกับการทำงานของเซลล์ต่างๆ ทุกมี exosomes โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน SMC ที่เอ็กโซโซม เป็นตัวหลักทำให้เกิด Paracrine Effect ให้สามารถสร้างใหม่ได้
*Paracrine Effect: เป็นหนึ่งในบทบาทสำคัญของStem Cell ในการฟื้นฟูสร้างเสริมใหม่ และซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย


Q : โปรแกรมงานผิวนี้ได้ผลดีที่สุดสำหรับใคร
A : ผู้ที่ต้องการ การฟื้นฟูบำรุงผิวที่ตอบโจทย์หลายปัญหาครอบคลุมทั้งการสร้างผิวใหม่ที่อ่อนเยาว์ เพิ่มความยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ กระชับรูขุมขน และอื่นๆ 

-ผู้ที่ต้องการรักษาผิวที่อ่อนแอ ระคายเคืองง่าย ผิวบาง หน้าแดงง่าย ผิวหนังอักเสบ
ผื่นแพ้

-ผู้ที่ต้องการรักษาสิวเรื้อรัง สิวผด ผื่นแพ้สัมผัสจากการสวมหน้ากากอนามัยให้ดีขึ้น


Q : ทำไปแล้วจะเริ่มเห็นผลเมื่อไร
A : ขึ้นอยู่กับพื้นฐานผิวเดิมของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นว่าผิวสว่างใสและเนียนนุ่มชุ่มชื้น ฉ่ำวาวขึ้น ที่ประมาณ 4-5 วันหลังจากทำเพียงครั้งแรก โดยแนะนำการรักษาต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง เพื่อคุณภาพผิวที่ดีในระยะยาว


Q : ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน
A : ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปจะคงอยู่ประมาณ 1 เดือนหลังจากทำ 1 ครั้ง เพื่อให้เห็นผลชัดเจน เราแนะนำให้ทำต่อเนื่องทุกเดือนอย่างน้อย 3 ครั้ง แล้วเว้นห่างที่ 3-6 เดือน เมื่อผิวดีขึ้นชัดเจนแล้ว สามารถทำเพื่อคงสภาพผิวทุก 6-12 เดือนได้เลย (การฟื้นฟูผิวด้วยเอ็กโซโซมนี้ ไม่มีระยะเวลาการคงอยู่ของสารออกฤทธิ์แบบการฉีดโบหรือฟิลเลอร์

เนื่องจากหลักการฟื้นฟูผิวด้วยวิธีนี้เป็นการสร้างเสริมผิวใหม่ด้วยสารตามธรรมชาติ ดังนั้นระยะเวลาของผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพื้นฐานสภาพผิวของแต่ละบุคคล สภาพแวดล้อม การใช้ชีวิต และการดูแลรักษาผิวด้วย)


Q : แตกต่างจาก เมโส skin booster ตัวอื่นๆอย่างไร
A : กลุ่มสกินบูสเตอร์ และเมโสที่มีอยู่ทั่วไปในท้องตลาด จะเน้นให้ความชุ่มชื้นและเติมสารบำรุงให้แก่ผิวแต่Exosome ไม่เพียงแต่เสริมเกราะป้องกันผิว (skin barrier)ให้แข็งแรงเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมไฟโบรบลาสท์และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินรวมไปถึงไฮยาลูโรนิกแอซิด ในทุกชั้นผิวหนังและโครงสร้างเนื้อเยื่อใต้ผิวด้วย เรียกได้ว่าเป็นสารที่ฟื้นฟูทุกชั้นผิว จึงแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุมมากที่สุดอย่างแท้จริง


6 : Exosome ASCE+ ตัวยาหลักในโปรแกรมผิวนี้ แตกต่างจาก Growth factorหรือผลิตภัณฑ์เอกโซโซมแบรนด์อื่นอย่างไร?
A : ในกระบวนการเพาะเลี้ยงสารต้นกำเนิด อาหารเลี้ยงสารต้นกำเนิด (culture media) และชนิดของสารต้นกำเนิด ที่ใช้ทั้งหมดไม่เหมือนกัน ดังนั้นสาร Exosome ที่ได้ออกมาทั้งหมดจึงแตกต่างกัน Exosomes ASCE+ ประกอบด้วย PRDXs ซึ่งเป็นโปรตีนที่พิสูจน์แล้วว่ามีฤทธิ์ในการชะลอวัยผิว(anti-aging) และการฟื้นฟูผิวใหม่ (skin regeneration effects) และ let-7b ซึ่งเป็นหนึ่งใน miRNA ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการต้านการอักเสบ (anti- inflammatory effect) นอกจากนี้ หนึ่งใน exosomes marker CD44 ยังช่วยให้ส่งสารออกฤทธิ์เข้าสู่ผิวได้ ปัจจัยเหล่านี้ได้รับการพิสูจน์โดยงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์แล้ว



Q : ทำไมราคาของการรักษาด้วย Exosome ในแต่ละสถานพยาบาลจึงแตกต่างกัน ?
A: ค่าการรักษาจะขึ้นอยู่กับ คุณภาพละปริมาณของตัวยาที่ใช้ วิธีขั้นตอนการทำหัตถการ และความรู้ความชำนาญของแพทย์ผู้ทำ



Q : ขอข้อมูลเสริมความมั่นใจที่จะลองรักษาผิวด้วย Exosome นี้อีกสักนิดได้ไหมปลอดภัยจริงหรือค่ะ ?
A : Exosome ASCE+ ตัวยาหลักที่ใช้ในโปรแกรมนี้ เปิดตัวในฐานะสกินบูสเตอร์รุ่นที่ 4
(Skin Booster Gen 4 th ) ที่เด่นในด้านการฟื้นฟูสร้างผิวใหม่ ต้านการอักเสบ
และคุณประโยชน์อื่นๆต่อผิวที่มากมายหลากหลาย ในการแพทย์ต่างประเทศมีการศึกษาวิจัย และนำมาใช้รักษาโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง แผลเป็นรักษายากต่างๆ อย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยระดับนานาชาติมากมายเกี่ยวกับการใช้เอ็กโซโซมเป็นยารักษามะเร็ง หรือโรคหายากทางพันธุกรรมอื่นๆได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน regenerative aesthetics ที่มีการวิจัยเชิงรุกอย่างกว้างขวาง เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพ และมาตรฐานคุณภาพระดับสากลของแลบผู้ผลิต ExoCoBio ที่ได้รับการยอมรับและมีรางวัลระดับโลกการันตีแล้ว


Q : มีข้อควรระวังอะไรบ้างหลังทำหัตถการ
A :หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณผิวหน้าอย่างน้อย 4 ชั่วโมงหลังทำเพื่อป้องกันการติดเชื้อและ หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า โกนหนวด ทำความสะอาด อาบน้ำ ฯลฯ เป็นเวลา 12 ชั่วโมงหลังทำ 

  • หลีกเลี่ยงการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ อาบแดด อบซาวน่าหรือที่ร้อนจัด แสงแดดจัดอากาศเย็นจัด หรือออกกำลังกายเป็นเวลา 1 สัปดาห์หลังทำ
  • งดการทำหัตถการผิวหนังอื่นๆ เช่น การลอกหน้า

การทำเลเซอร์ที่สามารถกระตุ้นผิวได้ 2 สัปดาห์หลังทำ

  • หลีกเลี่ยงการกด หรือถูผิวหน้าหลังทำ
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดรังสี UV เป็นเวลา 10-14 วัน เพื่อการฟื้นฟูผิวที่ดีที่สุด

 

กลับไปเมนูหลัก

 


Bubbles DNA สูตรลับ อัพผิวให้ฉ่ำวาว หน้าเงา เนียน ใส ออร่าจับแบบสาวเกาหลี
เคยสงสัยไหมคะ ว่าทำไมเวลาดูซีรี่ย์เกาหลี ผิวนางเอกเค้าถึงได้ขาวใส เรียบเนียน ฉ่ำวาว หน้าเงากันดีจัง ?? เพราะนอกจากการดูแลผิว ด้วยการทาครีมบำรุงตัวเข้มข้นหลายสเต็ป ที่ขึ้นชื่อของคนเกาหลีแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งสูตรลับ ที่เป็นที่นิยมกันอย่างมากกก ในหมู่หนุ่มๆสาวๆเกาหลีด้วยค่ะ
                  
ส่วนประกอบหลัก
Bubbles DNAคือ "PN" เข้มข้น ซึ่ง PN ย่อมาจาก Polynucleotides ที่มีโครงสร้างทาง ที่เหมือนกับDNAของมนุษย์ สกัดจาก Salmon DNAโดยตัวยามีคุณสมบัติไปกระตุ้นการสร้างและจัดเรียงตัวของคอลลาเจน-อีลาสติน และไฟโบรบลาส ที่มีหน้าที่ผลิตคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ที่ชั้นผิว เพื่อสร้างเนื้อเยื่อมาซ่อมแซมผิว โดยตัว PN ที่ใช้นี้กำลังเป็นที่นิยมสูงที่สุดในเกาหลีเลยค่ะ
Bubble DNA ช่วยอะไรบ้าง ?
ที่สุดของการบำรุง ซ่อมแซมผิวหน้าสูตรเข้มข้นที่สุด ลงไปที่ชั้นลึกสุดของผิวหน้า ที่ช่วยได้ทุกปัญหาบนใบหน้า คุณสมบัติพิเศษของ Bubbles DNAคือ ช่วยทุกอย่างที่เกี่ยวกับผิวเลยค่ะ  เสริมสร้างคอลลาเจนอีลาสตินใต้ชั้นผิว ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น สิวผดลดลง จุดด่างดำ ฝ้ากระจางลง รูขุมขนกระชับ ริ้วรอยจางลง บำรุงผิวให้เรียบเนียน ชุ่มชื้น นุ่มลื่น ขาวสว่าง สดใส เงาเด้ง ฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี อีกทั้งยังสามารถช่วยลดการอักเสบของผิว เป็น Antioxidant และมี Whitening effect จึงช่วยทำให้รอยแผลเป็นจางลง ชะลอวัยให้ผิว และผิวขาวใสขึ้นอีกด้วยหลักๆคือ จะซ่อมผิวจากภายใน ได้ผลหลายอย่างมากๆ

PN: Bubbles DNAดีกว่า Salmon PNทั่วไปอย่างไร ?
Salmon PNทั่วๆไป คือ PDRN (ย่อมาจาก PolyDeoxyRiboNucleotides) ซึ่งเป็นส่วนประกอบย่อยของ PN 
สรุปง่ายๆก็คือ PN เป็นสาย ที่ยาวกว่า จึงสามารถกระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาส ได้ดีขึ้นกว่าถึง 50% โดยในงานวิจัย สามารถทำให้ผิวหนาขึ้น แข็งแรงขึ้น และขาวใสขึ้น ภายในระยะเวลา 2-4 สัปดาห์ 

Bubbles DNAจึงเหมาะสำหรับใคร 
ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง แผลเป็นหลุมสิว ผิวแห้งโทรม หยาบกร้าน ผิวบางมีริ้วรอย ผิวอ่อนแอแพ้ง่าย
ลักษณะการฉีด PN- Bubbles DNAจะลึกกว่า Salmonทั่วไป โดยจะฉีด PN ในระดับความลึกเดียวกับการฉีดฟิลเลอร์แบบสกินบูสเตอร์ จึงเห็นผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าการฉีดเมโสและ Salmon ทั่วไปด้วยค่ะ
  
คุณสมบัติพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ สามารถ ช่วยลดการอักเสบของผิว เป็น Antioxidant และมี Whitening effect จึงช่วยทำให้รอยแผลเป็นจางลง ชะลอวัยให้ผิว และผิวขาวใสขึ้นอีกด้วยหลักๆคือ จะซ่อมผิวจากภายใน เลยได้ผลหลายอย่างมาก
 
ขั้นตอนของการทำ PN: Bubbles DNA  

1. ทำความผิวหน้า ล้างเครื่องสำอางค์ เพื่อเตรียมผิวก่อนการทำทรีทเม้นท์ ผิวหน้าจะต้องสะอาด เป็นสิ่งสำคัญมาก

2. มาสก์ยาชาให้ทั่วหน้า แล้วทิ้งไว้ 30-45 นาที (ยาชานำเข้าจากเกาหลีด้วยเช่นกัน) 
 
3. เนื่องจากการทำ PN: Bubbles DNAในเคสหลุมสิว จะมีการทำ Subcision ตัดเซาะผังผืดร่วมด้วย จึงอาจมีการฉีดยาชาเพิ่มเติมก่อนด้วยค่ะ

4. ขั้นตอนการฉีด PN
จะมีการทายาฆ่าเชื้อ ทั่วหน้าอีกครั้งก่อน คุณหมอจะแบ่งฉีดทีละครึ่งหน้า โดยฉีดปูพรมทั่วใบหน้า ระดับความลึกที่วางตัวยาอยู่ที่ชั้น Intradermal เช่นเดียวกับการทำฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์ คือต้องลึกกว่าการฉีดเมโสหน้าใสทั่วๆไป

* การใช้เข็มฉีดลงบนผิวชั้นนี้ไม่เป็นอันตราย เนื่องจากไม่มีเส้นเลือด การทำแบบนี้ถือเป็นการกระตุ้นผิวให้สร้างคอลลาเจนวิธีหนึ่งด้วย 
* ขั้นตอนนี้ จะสังเกตเห็นว่า ผิวจะนูนๆขึ้นมาเป็นเหมือนตุ่มยุงกัด เป็นการฉีดปูพรมกระจายทั่วหน้า เพื่อให้ทุกพื้นที่ผิวได้รับการฟื้นบำรุงอย่างทั่วถึง

 


Q : ถามจริงๆเลย Bubbles DNAเห็นผลไหม?

A. : เห็นผลดีมากค่ะ ชัดเจน รู้สึกได้ด้วยตนเองเลย คุณหมอเบนซ์ ก็ฉีดให้ตนเองเป็นประจำค่ะ


Q : Bubbles DNAเหมาะกับ ใคร ?
A: เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัยเลยค่ะ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิว โทรมสะสม ผิวขาดการบำรุง ผิวออกแดด เจอมลภาวะ แต่งหน้าบ่อย อาการผิวบาง หน้าพังจากแพ้ครีม ครีมสเตียรอยด์ ทำเลเซอร์ อาการหน้าแห้งกร้าน การแต่งหน้าไม่ติดผิว แป้งตกร่อง ๆลๆ

 ใช้รักษาผู้ที่หน้าพัง ผิวบาง จากการทำเลเซอร์หรือแพ้ครีม เสริมสร้างคอลลาเจนอีลาสตินใต้ชั้นผิว ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับ ริ้วรอยจางลง บำรุงผิวให้เรียบเนียน ชุ่มชื้น นุ่มลื่น ขาวสว่าง สดใส เงาเด้ง ฉ่ำวาว 


Q : ควรทำ Bubbles DNAบ่อยแค่ไหน ?
A: ในผู้ที่ผิวไม่ได้มีปัญหามาก แต่ต้องการเพิ่มความเนียนเด้ง ขาวใส ฉ่ำวาว ให้ผิว สามารถทำเพียง 1-3 ครั้งต่อปีได้ (ทุก 3-6 เดือน)

ส่วนในผู้ที่มีปัญหาแผลเป็นหลุมสิว หรือผิวอ่อนแอ มีปัญหามาก แนะนำครั้งที่ 1-3 ครั้งแรก ให้ทำทุก 1-3 เดือน แล้วเว้นไปอีก 3-6 เดือน ค่อยๆ ห่างออกไป

ถือเป็นการซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ และสร้างผิวใหม่ที่แข็งแรงอ่อนวัย  การทำบ่อยๆ ติดต่อกันไม่มีผลเสียและไม่มีผลข้างเคียง แต่กลับมีข้อดี โดยเฉพาะผู้ที่มีรอยหลุมสิวและรูขุมขนกว้าง ถ้าใช้วิธีการนี้แล้วผิวหน้าจะค่อยๆ อิ่มฟู เต่งตึง เรียบเนียน แข็งแรงขึ้น ริ้วรอยต่างๆจะค่อยๆหายไป เพราะผิวหน้าเราจะแข็งแรง หนาฟูขึ้นมาเอง


Q : เจ็บไหม ?
A : ตัวยามีความเข้มข้นมาก จึงอาจรู้สึกถึงตอนเดินยาได้ แต่จะไม่เจ็บมากค่ะ ถ้าทำที่เกาหลีมักจะใช้วิธีดมยาสลบ เพราะส่วนมากมักทำควบคู่กับการทำศัลยกรรมใบหน้า แต่ การดมยาก็จะมีความเสี่ยงที่ตามมาได้เช่นกัน

ที่ Real Clinic จะใช้วิธีมาร์คยาชาบนใบหน้า เพื่อลดความรู้สึกเวลาโดนเข็มจิ้มหน้า แค่นี้ก็เพียงพอที่จะลดความเจ็บได้แล้วค่ะ ปลอดภัยหายห่วงด้วย

Bubbles DNAจึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อให้ผิวหน้าเรา เรียบเนียน สว่างใส ฉ่ำวาว เหมือนสาวเกาหลี และยังทำให้ผิวหน้าเราแข็งแรง มีสุขภาพผิวที่ดีด้วยค่ะ 

กลับไปเมนูหลัก


ฉีด ชาแนล chanel

การฉีดชาแนล ดูแลผิวสูตรลับฉบับสาวเกาหลี

การฉีด "ชาแนล" (ชื่อทางการคือ NCTF) เป็นที่นิยมในเกาหลี คือการทำทรีทเม้นท์ผิวที่ช่วยฟื้นฟูและปรับปรุงผิวที่เสื่อมสภาพ โดยมีส่วนประกอบที่เหมาะสมในการปรับปรุงการทำงานของไฟโบรบลาสต์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสื่อมสภาพของผิว ป้องกันการสร้างเม็ดสี ริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่น

NCTF ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปรับปรุงการทำงานของไฟโบรบลาสต์ ฟื้นบำรุงผิวที่อ่อนแอ คล้ำเสีย เสื่อมสภาพ เหี่ยวย่น ให้เกิดผิวที่สุขภาพดีขึ้นได้


ส่วนประกอบสำคัญ อุดมไปด้วย– กรดไฮยาลูโรนิก | ให้ความชุ่มชื้น เติมน้ำ และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว– กรดอะมิโน | ช่วยในการสร้างคอลลาเจน
– วิตามิน | ช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกาย
– แร่ธาตุ | ช่วยในเรื่องของระบบเผาผลาญ ปรับสมดุลตามธรรมชาติ
– โคเอ็นไซม์ | ส่งเสริมการทำงานของไฟโบรบลาสต์
– กลูตาไธโอน | ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมสภาพของร่างกาย
– เฮกเซน | เติมเต็มประจุ ช่วยฟื้นฟูใหม่

ได้รับการพิสูจน์แล้ว สามารถการกระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์สูงถึง 135% มีไฮยาลูโรนิกแอซิดที่มีโมเลกุลสูงกว่า 1.4 ล้านดาลตัน ซึ่งเป็นระดับที่ทำให้ผิวชุ่มชื้นและยืดหยุ่นได้มากที่สุด


จุดเด่นของชาแนล NCTF
- ประกอบด้วยส่วนผสมที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สามารถรักษาได้แม้ในผิวบอบบางและแพ้ง่าย ซึ่งยากในการรักษาด้วยเลเซอร์
- ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่มีผลข้างเคียงหรือสารแปลกปลอม และผ่านการทดสอบความปลอดภัยทั้งทาง Physical Chemical และ Biological แล้ว
- ประกอบด้วยส่วนผสมที่ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่า สามารถปรับปรุงการทำงานของไฟโบรบลาสต์ได้เป็นอย่างดี


ผลลัพธ์?ของการฉีดชาแนลทำให้ผิวเปล่งประกาย : ด้วยการทำงานของไฮยาลูโรนิกแอซิด และ complex factor ที่ลดการสร้างเม็ดสี ทำให้สีผิวถูกปรับให้สว่างยิ่งขึ้น และยังเพิ่มความชุ่มชื้นได้อีกด้วย ส่งผลให้ผิวเปล่งประกายแม้ไม่แต่งหน้า
ช่วยปรับความสมดุลผิว : ช่วยควบคุมความมันของผิว จึงลดความมันส่วนเกิน และช่วยแก้ปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำให้ผิวเต่งตึง : ช่วยฟื้นฟูการทำงานและการสร้างไฟโบรบลาสต์ สาเหตุสำคัญของการเกิดริ้วรอย จึงช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว และลดริ้วรอย

 
 

Q: เจ็บไหม?
A: ตัวยาแทบไม่แสบเลย อาจมีความเจ็บเล็กน้อยจากเข็มฉีดยา แต่จะมีการประคบเย็น และใช้เข็มเบอร์เล็กที่สุดช่วยลดความเจ็บปวดได้

Q: ควรฉีดห่างกันเท่าไหร่?
A: ในครั้งแรก แนะนำฉีดต่อเนื่องกัน 3 ครั้ง ห่างกันทุก 2-3 สัปดาห์ จากนั้นทุกๆ 3-6 เดือน เพื่อคงสภาพการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเนื่องจากจำนวนครั้ง ปริมาณ และการรักษาที่เหมาะสมจะแตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล แนะนำให้ปรึกษากับกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน

Q: นานไหมกว่าจะเห็นผล
A: โดยทั่วไป จะเห็นผลว่าผิวดีขึ้นหลังจากการฉีดครั้งที่สอง และเริ่มเห็นผลภายใน 2 สัปดาห์หลังการฉีด และเนื่องจากเป็นการเข้าไปปรับโครงสร้างผิว ให้แข็งแรงและดีขึ้นระยะยาว จึงแนะนำให้ฉีดซ้ำทุกๆ 3-6 เดือน เพราะมลภาวะ รังสียูวี และความชราวัยตามธรรมชาติของผิว เป็นสิ่งที่ต้องเผชิญอยู่ตลอด ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่การฉีดชาแนลNCTFจะช่วยชะลอกระบวนการเสื่อมของผิวจากสาเหตุเหล่านี้ และปรับปรุงคุณภาพผิวในระยะยาวได้

Q: มีผลข้างเคียงหรือไม่?
A: เนื่องจากประกอบด้วยส่วนผสมที่ผ่านการทดสอบแล้วว่าปลอดภัย จึงไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง จึงเหมาะสมสำหรับการใช้ฟื้นบำรุงสุขภาพผิวที่อ่อนแอ

Q: การดูแลและข้อควรระวังหลังการฉีด?
A: บางครั้งอาจเกิดรอยนูนบวมคล้ายยุงกัดประมาณ 1-2ชั่วโมง หรือรอยแดงช้ำหลังทำได้
- หลังจากการฉีดควรงดการถูหรือกระตุ้นบริเวณผิวบริเวณที่ฉีด แนะนำให้หลีกเลี่ยงความร้อนสูง การออกกำลังกายหนักๆ และงดดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 1 สัปดาห์หลังทำ
- หลังฉีดไม่ควรล้างหน้า แต่งหน้า อย่างน้อย 2-3 ชม.
- เพื่อให้เห็นผลการฉีดที่ดี ควรหลีกเลี่ยง อบไอน้ำ ซาวหน้า เป็นเวลา 1 อาทิตย์
- หลังฉีดควรทาครีมกันแดด, ครีมเพิ่มความชุ่มชื้น สม่ำเสมอ

กลับไปเมนูหลัก


รีจูรัน (Rejuran) คือ หนึ่งนวัตกรรมทางการแพทย์ ที่ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้อ่อนเยาว์ ช่วยปรับสภาพผิวให้สดใส เนียนเด้งกระชับรูขุมขน ลดเลือนริ้วรอย ผ่านการรับรองจากอย.ไทย และมีงานวิจัยรับรอง เป็นสารสกัดจาก Polyneucleotide (PN)บริสุทธิ์ ที่มีความเข้มข้น 2% มาจาก อสุจิ ของปลาแซลมอน (Salmon PN) ที่อาศัยอยู่ในทะเลตามธรรมชาติ ซึ่งใกล้เคียงมนุษย์มากที่สุด สามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านจากระบบภูมิคุ้มกัน ไม่กระตุ้นการแพ้ และช่วยซ่อมแซมถึงระดับลึกของผิวจึงมีคุณประโยชน์ที่หลากหลายต่อผิวหนัง ซึ่งการฉีดรีจูรันจะช่วยในเรื่องการฟื้นฟูใบหน้าในระดับชั้นผิวหนังแท้ ให้ผิวดูฉ่ำวาว เปล่งปลั่ง เนียนเด้ง มีออร่า แข็งแรง และดูสุขภาพดี

รีจูรัน ทำงานอย่างไร
กระบวนการของรีจูรัน คือ การกระตุ้นให้เกิดผิวใหม่ โดยการฉีดสาร PN (Polynucleotide,โพลินิวคลิโอไทด์) เข้าไปกระตุ้นGrowth Factor ในชั้นผิวหนังแท้ โดยสารตัวนี้จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในร่างกายอยู่แล้ว ตัวยาจะเข้าไปซ่อมแซมส่วนของผิวที่เสื่อมสภาพ และฟื้นฟูบำรุงผิวโดยรวมให้แข็งแรงและดูอ่อนเยาว์ อีกทั้งตัว PN ยังเข้าไปบล็อกการสร้างเม็ดสี จึงช่วยลดริ้วรอยฝ้า กระ จุดด่างดำ ลดรอยสิว แถมยังช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใสฉ่ำวาวอีกด้วย


 PN (Polynucleotide, โพลินิวคลิโอไทด์) คือ 

  • ชิ้นส่วน PN ที่ได้จากปลาแซลมอนที่อยู่ในทะเลธรรมชาติ โดยเทคโนโลยีที่ได้รับสิทธิบัตรเฉพาะที่เรียกว่า DOT™ 
  • เป็นสารละลายมีลักษณะเป็นเจลใส ปราศจากสี หลังฉีดเข้าสู่ผิวหนังแล้วจะค่อย ๆ กลืนไปกับร่างกายและซ่อมแซมผิวหนัง
  • ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า เข้ากันได้ดีที่สุดกับผิวหนังของมนุษย์ โดยปราศจากปฏิกิริยาต่อต้านใด ๆ
  • ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ด้วยกระบวนการทางชีววิทยาของชั้นผิวหนังแท้และผิวหนังกำพร้า


รีจูรัน มีประโยชน์อย่างไร

  • ช่วยฟื้นฟู และสร้างผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนที่เสียไป
  • ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น
  • ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ที่เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
  • เข้าไปแทนส่วนที่เสื่อมสภาพ และทำการซ่อมแซมผิวจากภายในกระตุ้นให้เกิดการสร้าง คอลลาเจน และอิลาสตินที่เสื่อมลงเนื่องจากอายุที่มากขึ้น
  • ช่วยรักษาหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น ลดขนาดรูขุมขนกว้างให้ดูเล็กลง
  • ลดการเกิดผิวเสียจากแสงแดด ให้ดูสุขภาพดี
  • ช่วยให้ผิวดูฉ่ำวาว อิ่มฟู อุ้มน้ำ แต่งหน้าติดง่าย
  • ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เกิดจากผิวขาดความยืดหยุ่น

 

รีจูรัน เหมาะกับใครบ้าง

  • ผู้ที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยบนใบหน้า
  • ผู้ที่ต้องการให้ผิวกระจ่างใส และฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน เนื่องจากผิวเสื่อมโทรม หรือเป็นแผล
  • ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวต้องการฟื้นฟูรักษา
  • ผู้ที่ต้องการผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับยิ่งขึ้น
  • ผู้ที่มีผิวที่แห้งขาดความชุ่มชื้นเนื่องจากผิวไม่สมดุล
  • ผู้ที่มีผิวมัน ต้องการปรับสมดุลความมันบนใบหน้า

รีจูรัน ปลอดภัยไหม ?
รีจูรัน (Rejuran) ได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย.ไทย และมีการจดทะเบียนนำเข้าไทยอย่างถูกต้องโดยบริษัท รีเอจไลน์
จำกัด ซึ่งล่าสุดได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ.
2565 ที่ผ่านมา ดังนั้น รีจูรัน ปลอดภัยอย่างแน่นอนค่ะ

รีจูรัน ผ่าน อย. ไทยไหม ?
ตัวยารีจูรันเป็นถือเป็นยาประเภทวิตามินบำรุงผิวที่ผ่านการรับรอง อย.ไทย และ KFDA จากต่างประเทศแล้ว
ผลิตโดยประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการจดทะเบียนนำเข้าไทยอย่างถูกต้องโดยบริษัท รีเอจไลน์ จำกัด และจำหน่ายโดยบริษัท
เอสดับบลิว เฮลธ์แคร์ จำกัดค่ะ
ในปัจจุบัน Rejuran จะมีทั้งหมด 3 รุ่น 3 สีค่ะ ที่นำเข้ามาในประเทศไทย และผ่านขึ้นทะเบียนอย. 

  • Rejuran Healer (กล่องดำ) ผู้ที่ต้องการเน้นฟื้นบำรุงผิว สายสวยแบบ Skin Booster ฟื้นฟูผิว
    เติมความชุ่มชื้น ให้ผิวอิ่มฟู รูขุมขนกระชับ ใบหน้าเรียบเนียน

  • Rejuran S (กล่องน้ำเงิน) จะช่วยเรื่องของผู้ที่มีปัญหาเรื่องหลุมสิว
    เพราะตัวนี้จะเข้าไปฟื้นฟูผิวที่เกิดจากรอยแผลเป็น เช่น หลุมสิว เมื่อเทียบกับอีก 2 รุ่น
    ตัวนี้เนื้อเจลจะมีความหนืดข้นมากที่สุด

  • Rejuran I (กล่องขาว) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวรอบดวงตา ลดริ้วรอยใต้ตา ริ้วรอยรอบปาก 

 

Rejuran ต้องฉีดกี่ครั้ง เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกเลยไหม?
ในการฟื้นฟูผิวด้วยรีจูรัน จะใช้เวลาในการซ่อมแซมผิวประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังฉีด จึงจะเริ่มเห็นผล โดยควรฉีดรีจูรันจำนวน 4
ครั้งติดต่อกัน ห่างกันที่ 2-4 สัปดาห์

  • การฉีดครั้งที่ 1 ผิวจะนุ่มลื่น ชุ่มชื้น และเรียบเนียนขึ้นเรื่อย ๆ 
  • การฉีดครั้งที่ 2 ผิวจะเต่งตึงขึ้น ริ้วรอยลดลง และรูขุมขนกระชับขึ้น   
  • การฉีดครั้งที่ 3 ผิวจะกระชับเฟิร์มขึ้น สุขภาพผิวแข็งแรงขึ้น อาการผิวแพ้แดงง่ายลดลง
  • การฉีดครั้งที่ 4 สามารถเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ผิวยกกระชับ รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ ริ้วรอยลดลง ผิวสุขภาพดี แข็งแรงขึ้น อย่างสมดุล 
ทั้งนี้ หลังจากฉีดครั้งที่ 4 ไปแล้ว สามารถเว้นระยะห่างนานขึ้นที่ 3-6 เดือนได้ เพื่อคงสภาพให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์อย่างต่อเนื่อง
 


Rejuran ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง ? นิยมในการฉีดเพื่อฟื้นฟูผิวหน้าเป็นหลัก แต่ก็สามารถนำไปในตำแหน่งอื่น ๆ ได้เช่นกัน 

ใบหน้า : สามารถฉีดได้ทุกบริเวณทั่วใบหน้า รวมถึงผิวรอบดวงตา

ลำคอ : เพื่อลดเลือนริ้วรอยที่คอ ช่วยให้ผิวที่บริเวณลำคอชุ่มชื้นขึ้น

มือ :  สามารถฉีดหลังมือ เพื่อทำให้ผิวหลังมือไม่แห้งกร้าน ลดริ้วรอย ดูสุขภาพดี


ฉีด Rejuran ใช้กี่ CC ? 
Rejuran Healer (กล่องดำ) จะมีหน่วยเป็น cc ซึ่ง 1 หลอด(โดส) = 2 cc โดยทั่วไปจะใช้  2 – 4 ml (1-2 โดส)  ต่อการฉีด 1 ครั้ง

  • ฉีดทั่วหน้า 4 cc (2โดส)
  • ฉีดเฉพาะแก้ม 2 cc (1โดส)
  • ฉีดคอ หรือ มือ 2 cc (1โดส)
  • Rejuran S (กล่องน้ำเงิน), Rejuran I(กล่องขาว) 1 หลอด(โดส) = 1 cc โดยทั่วไปจะใช้  1-2 cc (1-2 โดส)  ต่อการฉีด 1 ครั้ง
  • ฉีดทั่วหน้า/หลุมสิวทั่วหน้า 2 cc(2โดส)
  • ฉีดเฉพาะบริเวณรูขุมขนที่แก้ม 1 cc (1โดส)
  • ฉีดเฉพาะรอบดวงตา 1 cc (1โดส)
  • ฉีด Rejuran เจ็บไหม ?
  • การฉีด Rejuran คล้ายกับการฉีดลดริ้วรอย/ลิฟติ้ง ตัวยาของรีจูรันจะค่อนข้างแสบพอสมควร สามารถบรรเทาอาการแสบได้ด้วยการประคบเย็น นอกจากนี้ทางคลินิกจะใช้วิธีทายาชาหรือฉีดยาชาช่วยลดอาการแสบของตัวยาร่วมด้วย


ขั้นตอนการฉีด Rejuran  
หมอจะใช้เข็มขนาดเล็กพิเศษ ฉีดตัวยาเข้าไปทั่วผิวหน้า เน้นบริเวณผิวที่มีปัญหา (ก่อนฉีดสามารถฉีดยาชาแปะยาชา หรือประคบเย็นได้) หลังฉีดอาจมีอาการบวมแดงเป็นตุ่มๆคล้ายยุงกัดบริเวณที่ฉีดโดยอาการดังกล่าวจะค่อย ๆ ดีขึ้น ในช่วง 1-2 วัน คนไข้สามารถแต่งหน้าทาครีมได้ปกติในวันรุ่งขึ้น

การดูแลตัวเองหลังฉีด Rejuran 

  • หลังทำรีจูรัน สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติครับ หากอยากให้ผลลัพธ์หลังทำมีประสิทธิภาพควรดูแลตัวเองร่วมด้วย ดังนี้ 
  • ควรเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะเป็นหนึ่งในตัวการทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น
  • งด หรือลดการสูบบุหรี่ เพราะเป็นต้นเหตุทำให้ผิวหมองคล้ำเร็ว
  • ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส สุขภาพดี
  • หากเกิดรอยแดง ช้ำ จากรอยเข็มบริเวณที่ฉีด สามารถประคบเย็นได้ตามคำแนะนำของแพทย์
  • ในบางเคสอาจปวดระบมตามรอยเข็มในคืนแรกหลังทำ สามารถกินยาแก้ปวดได้ครับ
  • แนะนำให้อยู่ในอากาศเย็น ๆ จะช่วยลดอาการบวมเข็มลงได้เร็วขึ้น


รีจูรัน ราคาเท่าไหร่
ราคาของการฉีดรีจูรันจะอยู่ที่ประมาณหลอดละ 9,000 – 20,000 บาท แต่ละที่จะแตกต่างกันออกไปตามประสบการณ์ของแพทย์ในแต่ละคลินิก หากราคาต่ำหรือสูงกว่ามาตรฐานจนเกินไป ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ

กลับไปเมนูหลัก



มุลกวัง คืออะไร? มุลกวังเป็นชื่อเรียกโปรแกรมฉีดบำรุงผิวหน้าให้ดูชุ่มชื้นฉ่ำวาวเปล่งปลั่งดูสุขภาพดีเป็นที่นิยม โปรแกรมยอดฮิตผิวฉ่ำวาว ตัวล่าสุด ส่งตรงจากเกาหลี

ข้อดีของการฉีดมุลกวัง

  • ฉีดรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงชัดเจน!
  • ได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานต่อเนื่อง
  • ผิวหน้าได้รับความชุ่มชื้นและยังช่วยป้องกันริ้วรอยได้ด้วย
  • ผิวหน้าดูสดใสเป็นประกาย แลดูสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก!
ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ? สามารถฉีดได้ทุกบริเสณทั่วใบหน้า ลำคอ ผิวหลังมือ
ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานเท่าไร? สามารถเห็นผลได้หลังฉีดครั้งแรก และอยู่ได้นานถึง 2-3 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวของแต่ละบุคคล
ควรฉีดทุกๆ กี่เดือน? เราแนะนำให้ฉีดเดือนละครั้ง อย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไป

ส่วนประกอบหลัก คือ Polyneucleotide (PN) เข้มข้นสูงถึง 2% ที่สกัดมาจาก PN ของปลาแซลมอน ที่อาศัยอยู่ในทะเลตามธรรมชาติ ซึ่งใกล้เคียงมนุษย์มากที่สุด สามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านจากระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยซ่อมแซมถึงระดับผิวจึงมีคุณประโยชน์ที่หลากหลายต่อผิวหนัง ทั้งฟื้นฟูซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ และบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชิ้น  ลดการแพ้การอักเสบ เสริมสร้างร่างกายใหม่ให้ผิวแข็งแรง มีสุขภาพดี ปรับผิวที่หยาบกร้านให้กลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื้น ให้ผิวคุณเปล่งประกายได้ทันทีที่ฉีด!

ผู้ที่เหมาะกับการฉีดมุลกวัง
  • ผู้ที่ ต้องการลดเลือนริ้วรอยด้วยขั้นตอนที่ง่ายและสะดวก
  • ผู้ที่ ประสบปัญหาผิวหยาบกร้าน ขาดความชุ่มชื้นและสิวอุดตัน
  • ผู้ที่ ต้องการป้องกันริ้วรอยแห่งวัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
  • ผู้ที่ ต้องการให้ผิวแข็งแรงและชุ่มชื้นขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการมีผิวสุขภาพดี เรียบเนียน อย่างเป็นธรรมชาติ
  • ผู้ที่เริ่มมีอายุ 20 ปีปลาย ๆ  ที่เริ่มประสบปัญหาผิวแห้งกร้าน ต้องการผิวหน้าเต่งตึง แลดูสดชื่น
  • ผู้ต้องการสภาพผิวหน้าที่ดีขึ้นกว่าเดิม ลดริ้วรอยให้แลดูจางลง

กลับไปเมนูหลัก

Powered by MakeWebEasy.com